นางสดศรี สัตยธรรม กรรมการการเลือกตั้ง ด้านกิจการบริหารพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ เปิดเผยว่า นายอภิชาต สุขัคคานนท์ ประธาน กกต. ในฐานะนายทะเบียนพรรคการเมือง มีความเห็นให้ยุติการสอบต่อปมบริษัท อีสวอเตอร์บริจาคเงิน และสิ่งของให้อดีตรัฐบาลผ่านพรรคประชาธิปัตย์แล้ว โดยในส่วนคณะกรรมการการเลือกตั้งเอง เพียงรับทราบความเห็นของนายทะเบียนพรรคการเมือง หรือประธาน กกต.เท่านั้น ซึ่งกรณีดังกล่าวเป็นคดีที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีต ส.ว.สรรหา ยื่นให้ กกต.สอบยุบพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่นายอภิชาต กล่าวถึงกรณีมีความเห็นให้ยุติการสอบต่อปมบริษัทอีสวอเตอร์ฯ บริจาคเงินและสิ่งของให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการพิจารณาโดยดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เองไม่มีเจตนากระทำผิด และมีเจตนานำเงินบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือประชาชนจริง พร้อมยืนยันว่าการตัดสินของตนมีความเป็นกลาง เที่ยงตรง และบริสุทธิ์ใจ ไม่เลือกข้าง
ทั้งนี้ยอมรับว่า มีความกดดันในการทำหน้าที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ต้องชี้ขาดความเห็นในคำร้องต่างๆ
ส่วนการสอบสวนกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้หักเงินเดือน ส.ส. เพื่อสมทบเป็นเงินบริจาคพรรคโดยไม่ทำเป็นเช็กขีดคร่อม และกรณีคุณสมบัติ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการนั้น กกต.กำลังสอบสวนทั้งสองเรื่อง และจะเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ถ้อยคำต่อไป
ขณะที่นายอภิชาต กล่าวถึงกรณีมีความเห็นให้ยุติการสอบต่อปมบริษัทอีสวอเตอร์ฯ บริจาคเงินและสิ่งของให้พรรคประชาธิปัตย์ว่า เป็นการพิจารณาโดยดูที่เจตนาเป็นหลัก ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์เองไม่มีเจตนากระทำผิด และมีเจตนานำเงินบริจาค เพื่อไปช่วยเหลือประชาชนจริง พร้อมยืนยันว่าการตัดสินของตนมีความเป็นกลาง เที่ยงตรง และบริสุทธิ์ใจ ไม่เลือกข้าง
ทั้งนี้ยอมรับว่า มีความกดดันในการทำหน้าที่นายทะเบียนพรรคการเมือง ที่ต้องชี้ขาดความเห็นในคำร้องต่างๆ
ส่วนการสอบสวนกรณี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ให้หักเงินเดือน ส.ส. เพื่อสมทบเป็นเงินบริจาคพรรคโดยไม่ทำเป็นเช็กขีดคร่อม และกรณีคุณสมบัติ ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ หลังกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งให้ปลดออกจากราชการนั้น กกต.กำลังสอบสวนทั้งสองเรื่อง และจะเชิญฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาให้ถ้อยคำต่อไป