นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ส.ส.พิษณุโลก พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่รัฐบาลออกมายืนยันว่าเป็นเรื่องปกติเกี่ยวกับเช็ค 80,000 บาท ในการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ หรือจีทูจี ทั้งที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตรวจสอบพบพิรุธว่า ตนขอย้ำว่า รื่องนี้เป็นเรื่องผิดปกติ เพราะไม่มีประเทศไหนที่ซื้อข้าวแบบจีทูจีโดยรับข้าวทีและจ่ายเงินที นอกจากจะเป็น "เสี่ยเปี๊ยก" หรือ "เสี่ยเปี๋ยง"เป็นคนซื้อ จึงอยากฝากไปยังรัฐบาลว่า หากแน่จริง ขอให้เอาความเห็นของรัฐบาลไปชี้แจงต่อ ป.ป.ช.ซึ่งจะเป็นการผูกมัดตัวเองต่อ ป.ป.ช.อย่างแท้จริง
ทั้งนี้ จากการติดตามตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล พบสิ่งผิดปกติเพิ่มขึ้น จากเดิมตนเคยระบุว่า การระบายข้าวของรัฐบาล โดยมีนายปาล์ม ที่มอบอำนาจให้นายโจ และนำไปขายข้าวต่อให้โรงสี ซึ่งข้อมูลล่าสุดทราบมาว่า มีกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดรัฐบาลได้เปลี่ยนตัวละครซื้อขายข้าวแบบจีทูจี เป็นผู้หญิงเซ็นชื่อในใบค้าข้าวเป็นภาษาจีน และมอบในดังกล่าวให้กับผู้ซื้อข้าวไปรับข้าวจากโกดังของรัฐบาลเลย จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใคร เป็นตัวแทนของรัฐบาลจากประเทศไหน ถึงมาซื้อข้าวจากในโกดังรัฐบาล ถ้าไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาลจากต่างประเทศ แล้วมีใบประกอบกิจการค้าข้าวหรือไม่ โดยตนได้หลักฐานมาจากผู้หวังดีว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวใกล้ชิดกับบริษัทค้าข้าวของไทย ที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล เท่ากับว่าการระบายข้าวแบบจีทูจียังมีการทุจริตไม่หยุด เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครเล่น ซึ่งตนกำลังให้ผู้เชี่ยวชาญแกะลายเซ็นดังกล่าวว่า มีความหมายอย่างไร
ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งเป้าจะระบายข้าวได้เดือนละ 500,000 – 1,000,000 ตันนั้น นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า ตนทราบมาว่ารัฐบาลเตรียมกำหนดทีโออาร์ โดยตั้งเงื่อนไขว่า ผู้ที่มีประมูลซื้อข้าว จะต้องรับไปตามสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนในที่รู้ว่า สภาพข้าวโกดังไหนมีคุณภาพเป็นอย่างไร ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขแบบนี้ จะทำให้บริษัทอื่นไม่กล้าเข้าประมูล จึงถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนใกล้ชิดรัฐบาล ดังนั้น ตนอยากเสนอให้รัฐบาลกำหนดเงื่อนไขในทีโออาร์ว่า ข้าวที่จะประมูลต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแสดงว่ารัฐบาลกล้าประกันคุณภาพข้าว เป็นการเปิดกว้างให้คนอื่นกล้าเข้าประมูลมากขึ้น
ส่วนที่ทีมโฆษกรัฐบาลตอบโต้ว่า การล้อมกองหยอดข้าวลงหลุมไม่สามารถทำได้ และท้าให้ตนสาธิตให้ดูนั้น ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ มีการเอาข้าวเสียไปหยอดอยู่ตรงกลางกองข้าวดี ดังนั้น ตนขอรับคำท้า โดยในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.30น. ตนและคณะจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปสาธิตวิธีหยอดข้าวลงหลุมให้ดู
ทั้งนี้ จากการติดตามตรวจสอบการระบายข้าวของรัฐบาล พบสิ่งผิดปกติเพิ่มขึ้น จากเดิมตนเคยระบุว่า การระบายข้าวของรัฐบาล โดยมีนายปาล์ม ที่มอบอำนาจให้นายโจ และนำไปขายข้าวต่อให้โรงสี ซึ่งข้อมูลล่าสุดทราบมาว่า มีกลุ่มธุรกิจที่ใกล้ชิดรัฐบาลได้เปลี่ยนตัวละครซื้อขายข้าวแบบจีทูจี เป็นผู้หญิงเซ็นชื่อในใบค้าข้าวเป็นภาษาจีน และมอบในดังกล่าวให้กับผู้ซื้อข้าวไปรับข้าวจากโกดังของรัฐบาลเลย จึงอยากให้รัฐบาลชี้แจงว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวเป็นใคร เป็นตัวแทนของรัฐบาลจากประเทศไหน ถึงมาซื้อข้าวจากในโกดังรัฐบาล ถ้าไม่ใช่ตัวแทนรัฐบาลจากต่างประเทศ แล้วมีใบประกอบกิจการค้าข้าวหรือไม่ โดยตนได้หลักฐานมาจากผู้หวังดีว่า ผู้หญิงคนดังกล่าวใกล้ชิดกับบริษัทค้าข้าวของไทย ที่มีความใกล้ชิดกับรัฐบาล เท่ากับว่าการระบายข้าวแบบจีทูจียังมีการทุจริตไม่หยุด เพียงแต่เปลี่ยนตัวละครเล่น ซึ่งตนกำลังให้ผู้เชี่ยวชาญแกะลายเซ็นดังกล่าวว่า มีความหมายอย่างไร
ส่วนกรณีที่รัฐบาลตั้งเป้าจะระบายข้าวได้เดือนละ 500,000 – 1,000,000 ตันนั้น นายแพทย์วรงค์ กล่าวว่า ตนทราบมาว่ารัฐบาลเตรียมกำหนดทีโออาร์ โดยตั้งเงื่อนไขว่า ผู้ที่มีประมูลซื้อข้าว จะต้องรับไปตามสภาพที่เป็นอยู่ ซึ่งจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนในที่รู้ว่า สภาพข้าวโกดังไหนมีคุณภาพเป็นอย่างไร ซึ่งการกำหนดเงื่อนไขแบบนี้ จะทำให้บริษัทอื่นไม่กล้าเข้าประมูล จึงถือเป็นการเอื้อประโยชน์ให้คนใกล้ชิดรัฐบาล ดังนั้น ตนอยากเสนอให้รัฐบาลกำหนดเงื่อนไขในทีโออาร์ว่า ข้าวที่จะประมูลต้องเป็นไปตามมาตรฐานของกระทรวงพาณิชย์ เพื่อแสดงว่ารัฐบาลกล้าประกันคุณภาพข้าว เป็นการเปิดกว้างให้คนอื่นกล้าเข้าประมูลมากขึ้น
ส่วนที่ทีมโฆษกรัฐบาลตอบโต้ว่า การล้อมกองหยอดข้าวลงหลุมไม่สามารถทำได้ และท้าให้ตนสาธิตให้ดูนั้น ตนยืนยันว่าเป็นเรื่องที่ทำได้ มีการเอาข้าวเสียไปหยอดอยู่ตรงกลางกองข้าวดี ดังนั้น ตนขอรับคำท้า โดยในวันที่ 15 กรกฎาคมนี้ เวลา 10.30น. ตนและคณะจะเดินทางไปทำเนียบรัฐบาล เพื่อไปสาธิตวิธีหยอดข้าวลงหลุมให้ดู
