นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง กล่าวว่า หลังจากการตั้งศูนย์ปราบปรามการทุจริตพบว่า มีการกระทำความผิดในหลายด้าน ทั้งการปลอมแปลงแสตมป์เสียภาษี พฤติกรรมการหลีกเลี่ยงเสียภาษีซื้อรถหรู และที่ผ่านมาตรวจพบการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มการส่งออก โดยผิดกฎหมายมูลค่ามากกว่า 3,000 ล้านบาท ซึ่งกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ได้ตรวจสอบเรื่องดังกล่าว เพื่อหาผู้กระทำความผิดในทุกขั้นตอน ทั้งภาคเอกชน เจ้าหน้าที่ และผู้บริหารของกรมสรรพากรที่มีส่วนเกี่ยวข้อง และโยงใยไปถึงบุคคลอื่น ซึ่งต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด เพราะว่าเบื้องต้นพบว่า บริษัทขอคืนภาษีปลอมเป็นบริษัทขนาดเล็ก ไม่ได้ทำกิจการจริง ตั้งบริษัทมาไม่ถึงเดือน แต่นำใบเสร็จมาขอคืนภาษีในมูลค่าที่สูงมาก ขณะที่เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรกลับเร่งคืนเงินภาษีให้อย่างรวดเร็ว ทั้งที่ปกติควรจะเป็นบริษัทที่ทำกิจการนาน มีความน่าเชื่อถือ จึงจะพิจารณาคืนเงินให้ด้วยความรวดเร็ว