น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ เดินทางลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมกลุ่มเกษตรอินทรีย์บากเรือ ต.บากเรือ อ.มหาชนะชัย จ.ยโสธร ท่ามกลางการต้อนรับจากประชาชนในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้ทักทายประชาชนก่อนลงรับฟังบรรยายสรุปเกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ในพื้นที่ ซึ่งเกษตรกรมีการรวมกลุ่มกันแบบเข้มแข็ง ด้วยการทำนาแบบเกษตรอินทรีย์ มีการบริหารจัดการโรงสีชุมชน แปรรูปข้าวสารและผลิตภัณฑ์จากข้าว เช่น ข้าวสารหอมมะลิ ข้าวกล้อง น้ำมันรำข้าว และมีสินค้าโอทอปดีเด่น ได้แก่ กลุ่มเครื่องดนตรีไทย กลุ่มทอผ้า กลุ่มอนุรักษ์ไผ่งาม ซึ่งถือเป็นชุมชนที่มีชื่อเสียงของ จ.ยโสธร มีการต่อยอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านการแปรรูปสินค้า และพัฒนาโอทอปให้ก้าวสู่สากล
จากนั้น นายรัฐมนตรีได้เยี่ยมสินค้าโอทอป และให้ความสนใจ ต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นต้นแบบในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในช่วงที่ข้าวถูกปรับลดราคาจำนำ
ทั้งนี้ ชาวนาใน ต.บากเรือ ระบุว่า การลดราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาทต่อตันนั้น ยอมรับว่า ชาวนาได้รับผลกระทบ เพราะมีต้นทุนที่สูง แต่หากเป็นการลดราคาชั่วคราว ก็สามารถยอมรับได้ แต่การปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ก็จะทำให้ได้รับผลกระทบจากราคารับจำนำข้าวน้อยลง
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำนา โดยระบุว่า จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ และรัฐบาลจะลงพื้นที่รับทราบปัญหาของประชาชน โดยพรุ่งนี้จะมีการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เชื่อมโยงกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวหลักสำคัญในการกระจายสินค้าทางการเกษตร
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยังโครงการเสริมศักยภาพการกักเก็บน้ำ โครงการชลประทานห้วยลิงโจน บ้านหนองบึง ต.หนองแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งถือเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง พื้นที่ 3,172 ไร่ เก็บน้ำได้ 18.4 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตรและเป็นแหล่งท่องเที่ยว
หลังจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางต่อไปยัง จ.มุกดาหาร เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ของเกษตรกร ก่อนที่จะเดินทางไปยังด่านศุลกากรมุกดาหารเป็นจุดต่อไป
จากนั้น นายรัฐมนตรีได้เยี่ยมสินค้าโอทอป และให้ความสนใจ ต้องการให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นต้นแบบในการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ในช่วงที่ข้าวถูกปรับลดราคาจำนำ
ทั้งนี้ ชาวนาใน ต.บากเรือ ระบุว่า การลดราคาจำนำข้าวจาก 15,000 บาท เหลือ 12,000 บาทต่อตันนั้น ยอมรับว่า ชาวนาได้รับผลกระทบ เพราะมีต้นทุนที่สูง แต่หากเป็นการลดราคาชั่วคราว ก็สามารถยอมรับได้ แต่การปลูกข้าวแบบเกษตรอินทรีย์ก็จะทำให้ได้รับผลกระทบจากราคารับจำนำข้าวน้อยลง
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวให้กำลังใจประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกรที่ทำนา โดยระบุว่า จะส่งเสริมข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์ และรัฐบาลจะลงพื้นที่รับทราบปัญหาของประชาชน โดยพรุ่งนี้จะมีการประชุมหาแนวทางแก้ไขปัญหาให้เชื่อมโยงกับโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง 2.2 ล้านล้านบาท ซึ่งจะเป็นตัวหลักสำคัญในการกระจายสินค้าทางการเกษตร
จากนั้น นายกรัฐมนตรี เดินทางต่อไปยังโครงการเสริมศักยภาพการกักเก็บน้ำ โครงการชลประทานห้วยลิงโจน บ้านหนองบึง ต.หนองแซง อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร ซึ่งถือเป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง พื้นที่ 3,172 ไร่ เก็บน้ำได้ 18.4 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อเป็นประโยชน์ต่อพื้นที่การเกษตรและเป็นแหล่งท่องเที่ยว
หลังจากนี้ นายกรัฐมนตรี จะเดินทางต่อไปยัง จ.มุกดาหาร เพื่อรับฟังปัญหาในพื้นที่ของเกษตรกร ก่อนที่จะเดินทางไปยังด่านศุลกากรมุกดาหารเป็นจุดต่อไป
