เจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยว่า สำนักงานความร่วมมือเพื่อความมั่นคงด้านการทหารของสหรัฐฯ ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านการขายอาวุธของสหรัฐฯ ให้กับต่างประเทศ ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสว่า รัฐบาลไทยได้ทำเรื่องขอซื้อเฮลิคอปเตอร์แบบยูเอช-72เอ ดังนั้นสหรัฐฯ จึงมีแผนที่จะขายเฮลิคอปเตอร์แบบเดียวกันนี้ จำนวน 6 ลำ มูลค่าประมาณ 77 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,310 ล้านบาท) ให้กับไทย
เฮลิคอปเตอร์แบบเดียวกันนี้ กองกำลังพิทักษ์แห่งชาติสหรัฐฯ ใช้ในภารกิจฉุกเฉิน และลาดตระเวนด้านความมั่นคง การขายเฮลิคอปเตอร์นี้ จะเป็นการเปิดทางให้มีการขายอาวุธมูลค่ามหาศาล เพราะสหรัฐฯ ต้องการที่จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์มายังภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบกับบริษัทผู้ผลิตอาวุธของสหรัฐฯ จะได้เปรียบอยู่เสมอในการขายอาวุธให้กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย
พ.ท.หญิง แคเธอรีน วิลกินสัน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เรื่องการจะขายเฮลิคอปเตอร์ให้ไทย เพราะไทยเป็นพันธมิตรด้านการทหารที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งการทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายลีออน พาเนตตา อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงวิสัยทัศน์ร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมของไทย โดยมีบริษัทอีเอดีเอส นอร์ธ อเมริกา ยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตอากาศยาน เป็นบริษัทผู้ทำสัญญาในข้อตกลงนี้
เฮลิคอปเตอร์แบบเดียวกันนี้ กองกำลังพิทักษ์แห่งชาติสหรัฐฯ ใช้ในภารกิจฉุกเฉิน และลาดตระเวนด้านความมั่นคง การขายเฮลิคอปเตอร์นี้ จะเป็นการเปิดทางให้มีการขายอาวุธมูลค่ามหาศาล เพราะสหรัฐฯ ต้องการที่จะปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์มายังภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ประกอบกับบริษัทผู้ผลิตอาวุธของสหรัฐฯ จะได้เปรียบอยู่เสมอในการขายอาวุธให้กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย
พ.ท.หญิง แคเธอรีน วิลกินสัน โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ยืนยันว่า เรื่องการจะขายเฮลิคอปเตอร์ให้ไทย เพราะไทยเป็นพันธมิตรด้านการทหารที่สำคัญของสหรัฐฯ ซึ่งการทำข้อตกลงซื้อขายอาวุธดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่ นายลีออน พาเนตตา อดีตรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯ ได้ลงนามในข้อตกลงวิสัยทัศน์ร่วมกับรัฐมนตรีกลาโหมของไทย โดยมีบริษัทอีเอดีเอส นอร์ธ อเมริกา ยักษ์ใหญ่ในวงการผลิตอากาศยาน เป็นบริษัทผู้ทำสัญญาในข้อตกลงนี้