เรื่องย่อ วันนี้ที่รอคอย
น่านปิงนรเทพ(วัยเด็ก) ไปเดินเล่นกับม่านฟ้า หรือเมย น้องสาวสุดที่รักเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนที่
คุณพ่อบาทหลวงโจเซฟจะพาม่านฟ้าไปส่งให้พ่อเลี้ยงทางเหนือ ซึ่งเป็นอดีตทหาร เพื่ออนาคตของม่านฟ้า
หากน่านปิงกับม่านฟ้ามีวาสนาต่อกัน ทั้งคู่ย่อมได้พบกันอีก
น่านปิงนรเทพ เป็นราชบุตรของเจ้าหลวงพีริยเทพ และพระเทวีศุลีมาน แห่งคีรีรัฐนคร เจ้าหลวงพีริยเทพมีพระเชษฐา ชื่อ เจ้าชายมาทยาธร ซึ่งมีพระชายานาม สิริวาระตี(พี่สาวพระเทวีศุลีมาน) และบุตรนาม ศิขรนโรดม เจ้าชายมาทยาธรไม่พอใจที่เจ้าหลวงพีริยเทพไม่เปิดการค้าเสรีจึงทำการปฏิวัติ เจ้าหลวงพีริยเทพไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงยอมโดยดี แต่พระองค์แอบให้อินปง ราชองครักษ์พาพระเทวีและราชบุตรหนี พร้อมนำตราสุรสีหนาท สัญลักษณ์ของกษัตริย์แห่งคีรีรัฐไปด้วย ส่วนพระองค์ดื่มยาพิษของเจ้าชายมาทยาธรสิ้นพระชนม์ เจ้าชายมาทยาธรให้นายพลจตุรัส ออกข่าวเรื่องเจ้าหลวงสิ้นพระชนม์ อินปงพาพระเทวีและราชบุตรหนีไปพร้อมจันทร์แรม ภรรยา และม่านฟ้า ลูกของเขา โดยมี ภูสินทร ราชองครักษ์อีกคนระวังหลัง และคำฝาย หญิงใบ้คอยดูแลราชบุตร ทั้งสองพระองค์ลงเรือล่องไปทางแม่น้ำเวียงสาย อินปงกับจันทร์แรมฝากม่านฟ้าไปด้วย แล้วพวกเขาก็กลับมาช่วยภูสินธร พลเอกราชิด ปะทะกับภูสินทร พวกภูสินทรสู้ไม่ได้ อินปงกับจันทร์แรมชิงฆ่าตัวตาย ภูสินทรบาดเจ็บสาหัส และถูกจับไปไว้ที่ผาห่มดอก ราชิดกลับมารายงานเจ้าชายมาทยาธร บายศรี ภรรยาของภูสินทรแอบได้ยินก็รีบไปเล่าให้พระชายาสิริวาระตีฟัง พระชายาหาทางช่วยภูสินทร เพื่อให้ภูสินทรไปอารักขาพระเทวีและราชบุตร
เจ้าชายมาทยาธรมาบอกพระชายาสิริวาระตีกับศิขรนโรดมว่าเจ้าหลวงสิ้นแล้ว ส่วนพระ-เทวีกับราชบุตรหายตัวไป พระชายาสิริวาระตีทำเป็นเพิ่งรู้ พระนางสงสารลูกเพราะรู้ว่าศิขรนโรดมกับน่านปิงนรเทพรักกันมาก ศิขรนโรดมไปเรียนหนังสือกับครูเฒ่าคนเดียว ด้วยความคิดถึง องค์ชายจึงเล่าให้ครูเฒ่าฟัง ตั้งแต่น่านปิงเป็นคนตั้งชื่อม่านฟ้า ทั้งยังเลี้ยงกระต่ายไว้เป็นของขวัญม่านฟ้า และอีกหลายเรื่องซึ่งทำให้ครูเฒ่ารู้ว่าแท้จริงเจ้าหลวงพีริยเทพทรงเห็นด้วยกับการเปิดประเทศ แต่คีรีรัฐยังไม่พร้อมจึงจะรอไปก่อน ศิขรนโรดมไม่ชอบการปกครอง แต่น่านปิงนรเทพขอร้องแกมบังคับให้เรียน เพราะอนาคตเป็นสิ่งไม่แน่นอน ศิขรนโรดมจึงสัญญาว่าจะตั้งใจเรียนเพื่อเป็นผู้ช่วยของน่านปิงนรเทพ และจะรอให้น่านปิงนรเทพกลับมาเป็นเจ้าหลวง
นายแพทย์สิงหะไปตรวจอาการภูสินทร และแอบส่งข่าวเรื่องพาหนีในวันงานลอยประทีปให้ภูสินทรรู้ รุ่งเช้าของวันงาน ครูเฒ่าพาศิขรนโรดมนั่งรถม้าเล่น ระหว่างทางพบชายสองคนเดินอยู่ซึ่งหนึ่งในนั้นจะไปแม่น้ำเวียงสาย ครูเฒ่าให้ติดรถม้าไปด้วย ชายคนนั้น คือ ภูสินทร เขาได้รับคำสั่งให้ตามหาพระเทวีกับราชบุตรเพื่อถวายอารักขา และมอบห่อสมบัติให้สองพระองค์ใช้ยังชีพ
เวลาผ่านไปสิบกว่าปี
ม่านฟ้ามาอยู่กับพลตรีสุริยะ ภีมะมนตรี โดย มีชื่อใหม่ว่า บราลี หรือ บรี ขณะที่คุณพ่อ-บาทหลวงย้ายมาอยู่ที่โบสถ์ในฮ่องกง พระเทวีศุลีมานฝากน่านปิงนรเทพมาเรียนด้วย ต่อมาไม่นาน พระเทวีตรอมใจตาย คุณพ่อบาทหลวงได้ฝากฝังน่านปิงไว้กับจ้าวฉินเย่ว์ หรือ เต้ นักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง โดยน่านปิงนรเทพ มีชื่อใหม่ว่า จ้าวซัน เต้มีจ้าวไทไท เป็นภรรยาใหญ่ นางไม่มีลูก เต้มีภรรยาอีกหลายคน และมีลูกชายกับหญิงต่างชาติ ชื่อ จ้าวฉินเจียง แต่จ้าวไทไทไม่ยอมรับทั้งแม่และลูก ฉินเจียงน้อยใจจึงหันไปหาอบายมุข โดยมีเกาเฟย อดีตนักเลงเป็นคนชักนำ นอกจากนี้ เต้ยังมีลูกสาวกับคุณนายสี่ สองคน คือ เหม่ยอิง ผู้หญิงเก่ง แอบรักจ้าวซัน เพราะรู้ว่าจ้าวซันไม่ใช่พี่แท้ๆ และผิงอัน หรือซายหมุย น้องสุดท้องซึ่งเป็นที่รักของทุกคน เต้ป่วยหนักและเสียชีวิตลง ก่อนตาย ท่านจะให้จ้าวซันสืบทอดกิจการ แต่จ้าวซันไม่รับ เต้จึงให้จ้าวซันดูแลชั่วคราว ส่วนฉินเจียงได้เป็นไท้เป่ง สืบทอดกิจการ จ้าวซันทำทุกอย่างเพื่อน้อง แต่ ฉินเจียงคิดว่าจ้าวซันจะแย่งทุกอย่างไป เพราะตอนนี้ทุกคนรัก และเคารพการตัดสินใจของจ้าวซันคนเดียว
บราลีเรียนจบปริญญาตรีที่ต่างประเทศ และกำลังจะกลับเมืองไทย แต่เธอแวะเที่ยวฮ่องกงก่อน ตอนแรกบราลีจะไปอยู่กับเพื่อนชื่อ หลินจื้อเหม่ย แต่เพื่อนติดธุระหลายวัน สุริยะจึงให้บราลีรับความช่วยเหลือจากจ้าวซัน ซึ่งสุริยะแนะนำว่าเป็นเพื่อนทางธุรกิจ จ้าวซันส่งหลี่ คนขับรถไปรับบราลีที่สนามบิน แล้วพามาพักที่โรงแรม บราลีเชื่อมาตลอดว่าสุริยะเป็นคนดี โดยไม่รู้ว่า เบื้องหลัง สุริยะเป็นเสือผู้หญิงและนักพนันตัวยง แต่เพราะจ้าวซันช่วยเหลือเรื่องเงิน สุริยะจึงดูแลบราลีอย่างดี
ฉินเจียงมาต่อว่าจ้าวซันเรื่องซื้อบริษัทตื้อสวน ที่กำลังจะเจ๊ง เพราะคิดว่าใช้เงินกองกลาง แต่เมื่อรู้ว่าจ้าวซันใช้เงินส่วนตัว ฉินเจียงก็เสียหน้ากลับไป เต๋อเป่า มือขวาของจ้าวซันมารายงานว่าบราลีถึงโรงแรมแล้ว จ้าวซันจึงให้เทเรซ่า เลขาส่วนตัวที่ทำงานมาตั้งแต่เต้ยังอยู่โทรไปที่โรงแรม แต่เทเรซ่าติดต่อบราลีไม่ได้ ทำให้จ้าวซันรีบไปโรงแรมด้วยความร้อนใจ ขณะที่บราลีไปเดินเล่นและได้เจอผิงอันที่มากับอาม่า คนใช้ ทั้งคู่ถูกชะตากันจึงไปเที่ยวด้วยกัน ผิงอันเล่าให้บราลีฟังถึงบ้านของตนที่เรียกว่า บ้านสี่ฤดู บราลีรับปากจะไปเที่ยวบ้านผิงอัน แล้วบราลีก็แยกกลับโรงแรม จ้าวซันโล่งใจที่บราลีกลับมา เขานัดบราลี ทานข้าวเย็น จากนั้น จ้าวซันก็กลับไปบริษัทแล้วให้เทเรซ่ายกเลิกนัดวันพรุ่งนี้ เพราะจะพาบราลีไปเที่ยว
ภูสินทรมาหาจ้าวซันด้วยใบหน้าที่ผ่าตัดแล้ว และมีชื่อใหม่ว่า เมืองเทพ เป็นนักธุรกิจไทย ภูสินทรอยู่กับคำฝายและติดต่อจ้าวซันเรื่อยมา ภูสินทรเตือนจ้าวซันให้ระวังตัวเพราะศิขรนโรดมจะมาดูงานที่ไทย แล้วเลยมาชมไหมจีนที่ฮ่องกงซึ่งพลเอกราชิดเดินทางมาด้วย ตกเย็น เหม่ยอิงชวนจ้าวซันไปงาน แต่จ้าวซันปฏิเสธเพราะนัดบราลีแล้ว เหม่ยอิงข่มความไม่พอใจไว้ เธอยังคิดว่าตนกับจ้าวซันเหมาะสมกันที่สุด และจะเป็นผู้นำธุรกิจต่อจากเต้ได้ จ้าวซันไปเยี่ยมจ้าวไทไท แม่ใหญ่ของบ้าน ในอดีต แม่ใหญ่เป็นคนเก่ง แต่เมื่อเต้เสียไป แม่ใหญ่ก็วางมือและอยู่แต่ในบ้าน ทั้งยังชอบพูดจาแปลกจนคนอื่นคิดว่าท่านเพี้ยน แม่ใหญ่บอกจ้าวซันเรื่องฉินเจียงคิดทำบ้านสี่ฤดูเป็นโฮเต็ล จ้าวซันไม่คิดว่าแม่ใหญ่จะรู้มากกว่าเขา อากง คนดูแลบ้านเก่าแก่เคยบอกจ้าวซันว่าแม่ใหญ่รู้อะไรดีดีมากกว่าทุกคน
จ้าวซันมารับบราลี เขาดีใจที่บราลีใส่ชุดที่เขาเตรียมให้ จ้าวซันพาบราลีไปเที่ยวรอบเมือง แล้วพาไปทานอาหาร เขาเป็นกันเองจนบราลีผ่อนคลาย คำพูดของจ้าวซันทำให้บราลีคิดถึงอดีตที่ไม่เคยรู้ เธอมักฝันถึงครอบครัวอบอุ่นบ่อยๆ จ้าวซันเห็นใจแต่ยังไม่บอกความจริง เหม่ยอิงมาทานข้าวกับคุณนายหวัง แม่ของเพื่อนจึงเห็นจ้าวซันกับบราลี เหม่ยอิงโกรธมากเลยไม่เข้าไปทัก ตลอดเวลาที่จ้าวซันไปกับบราลี เต๋อเป่าแอบตามไป เพราะกลัวมีคนมาปองร้ายจ้าวซัน
เหม่ยอิงมารอจ้าวซันที่บ้านและต่อว่าที่เขาไปทานข้าวกับบราลี ทั้งยังพยายามบอกความในใจ แต่จ้าวซันย้ำว่าเหม่ยอิงเป็นน้อง เหม่ยอิงโกรธจนพูดเรื่องที่ฉินเจียงแอบใช้เงินบริษัท เหม่ยอิงย้ำว่าคนที่ได้ครองบริษัทควรเป็นเธอกับจ้าวซัน จ้าวซันอึ้งทั้งเรื่องฉินเจียงและท่าทางแข็งกระด้างของเหม่ยอิง อากงมาปลอบใจและเตือนให้จ้าวซันระวังผู้หญิงตระกูลจ้าว
วันรุ่งขึ้น จ้าวซันพาบราลีไปเที่ยว เขาพูดถึงฮ่องกง และเรื่องที่ตนเคยคิดจะแก้แค้น บราลีไม่ชอบการแก้แค้น จ้าวซันเห็นบราลีเศร้าจึงเผลอเรียก ม่านฟ้า จนบราลีแปลกใจ แต่ยังไม่ทันถาม คุณพ่อ-บาทหลวงก็เข้ามาทัก คุณพ่อบาทหลวงบอกว่ารู้จักบราลี ตั้งแต่บราลียังเด็ก บราลีอยากรู้เรื่องในอดีตแต่ก็ทำได้เพียงเก็บความสงสัยเอาไว้
สุริยะมาเล่นการพนันที่บ่อนของฉินเจียงในมาเก๊าจนหมดตัว จึงขอกู้เงินฉินเจียงโดยอ้างว่ารู้จักจ้าวซัน เกาเฟยยุให้ฉินเจียงตกลงและทำสัญญาเงินกู้ไว้เผื่อวันข้างหน้าจะใช้ต่อรองกับจ้าวซัน นอกจากนี้ เกาเฟยยังบอกเรื่องผลสำเร็จการเจรจาซื้อขายอาวุธเถื่อนกับทหารคีรีรัฐ ฉินเจียงเชื่อเกาเฟยทุกอย่าง และสั่งให้เกาเฟยสะกดรอยตามบราลี เพราะเขาคิดว่าบราลีเป็นผู้หญิงพิเศษของจ้าวซัน
ศิขรนโรดมต้องเดินทางไปเมืองไทยและฮ่องกง แต่ใจยังห่วงพระบิดาและพระมารดาที่ไม่สบายจึงมาหาครูเฒ่าเพื่อปรับทุกข์ องค์ชายเพิ่งรู้เรื่องพระบิดาปฏิวัติเมื่อตอนโต จึงคิดเสมอว่าคีรีรัฐเป็นของน่านปิงนรเทพ ส่วนพระองค์มีหน้าที่ดูแลแทนเท่านั้น ครูเฒ่าซึ้งในน้ำพระทัยขององค์ชายมาก
พลเอกราชิดมีลูกสองคน คือ อสุนี เพื่อนเรียนและองครักษ์ของศิขรนโรดม กับมิถิลา น้องสาวอสุนีซึ่งกำลังจะเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงของพระเทวี อสุนีไม่เห็นด้วยที่พ่อจะปฏิวัติ ยิ่งการไปประเทศเพื่อนบ้านครั้งนี้ อสุนีไม่ได้ไปด้วย เขาก็ยิ่งห่วงองค์ชาย มิถิลาแอบบอกอสุนีว่าราชิดประชุมลับบ่อยๆ และได้ส่งทหารไปฮ่องกงเพื่อติดต่อเรื่องอาวุธแล้ว อสุนีอยากทูลเรื่องนี้ในวันที่ศิขรนโรดมเดินทาง แต่เขาก็พูดไม่ออก เพราะราชิดคอยมองอยู่
จ้าวซันมองรูปศิขรนโรดมในหนังสือพิมพ์ด้วยความชื่นชม เขาให้เทเรซ่าติดต่อเชิญองค์-รัชทายาทมาชมผ้าไหมที่บริษัทและจัดงานเลี้ยงต้อนรับ ก่อนจะโทรไปขอบใจภูสินทรที่ช่วยโอนเงินใช้หนี้แทนฉินเจียง จากนั้นจ้าวซันก็มารับบราลีที่จะย้ายไปอยู่กับเพื่อนไปส่ง จ้าวซันรู้ว่าฉินเจียงส่งคนสะกด-รอยตามก็เป็นห่วงบราลี จึงให้เต๋อเป่าจัดคนมาดูแลบราลี
โกศิณ ตัวแทนราชิดมาตกลงเรื่องอาวุธ ฉินเจียงเสนออาวุธใหม่ที่อานุภาพรุนแรงกว่าเดิม แต่มีราคาสูงขึ้นสองเท่า โกศิณขอเวลาคิด ฉินเจียงกลัวชวดเงิน แต่เกาเฟยมั่นใจว่าโกศิณต้องตกลง ทำให้ฉินเจียงสบายใจ เขาจึงไปหาความสุขกับซูหลิง คู่ขานักร้องคนใหม่
เหม่ยอิงรู้ความลับที่ฉินเจียงเบิกเงินโดยไม่มีใบเบิกจึงคิดแผนร้ายในใจ จ้าวซันไปติดต่อเรื่องเรียนต่ออเมริกาให้ผิงอัน ทำให้ผิงอันดีใจมากแต่เธออ่อนภาษาอังกฤษ จ้าวซันจึงจะหาคนมาสอนเพราะเหม่ยอิงไม่ยอมสอน ผิงอันคิดจะให้บราลีมาสอน จ้าวซันรู้ว่าอาม่าห่วงและคิดถึงผิงอันจึงรับปากจะให้ผิงอันกลับบ้านทุกเทอม เหม่ยอิงน้อยใจที่จ้าวซันห่วงผิงอันมากกว่าตนเมื่อครั้งไปเรียนเมืองนอก ทั้งที่ความจริง เหม่ยอิงไม่ยอมกลับบ้านเอง เหม่ยอิงขอจ้าวซันทำงาน จ้าวซันรับปากจะจัดการให้ เขาไม่ชอบที่เหม่ยอิงมีความคิดว่า ในธุรกิจไม่มีคำว่าพี่น้อง
ผู้กองเหลียง แห่งหน่วยปราบปรามอาชญากรรมมาบอกจ้าวซันว่า รถขนเสื้อสำเร็จรูป บริษัทสื้อฉวนของจ้าวซันถูกปล้นของหายหมด ผู้กองเหลียงมองจ้าวซันเป็นผู้ต้องสงสัย เพราะจ้าวซันอาจวางแผนปล้นตัวเองเพื่อเรียกเงินประกัน เต๋อเป่ารายงานจ้าวซันว่า เจิ้นจง คนขับรถที่หายตัวไปมีเพื่อน ชื่อ เสี่ยวจู จ้าวซันจึงไปหาเสี่ยวจูกับเต๋อเป่า และให้เหม่ยอิงเตรียมงานต้อนรับรัชทายาทแห่งคีรีรัฐ เต๋อเป่ากับจ้าวซันมาหาเสี่ยวจูที่โรงฝิ่น แต่เสี่ยวจูตายแล้ว จ้าวซันให้เต๋อเป่าโทรบอกผู้กองเหลียง ผู้กองเหลียงบอกว่าที่จริงคนเฝ้าประตูโรงฝิ่นก็ถูกฆ่า ผู้กองจึงส่งจ่าหมง ปลอมตัวไปแทนเพื่อดูเหตุการณ์ ตอนนี้ ผู้กองเหลียงมั่นใจแล้วว่าจ้าวซันไม่ใช่คนร้าย ผู้กองจึงพุ่งไปที่คนอื่นโดยเฉพาะฉินเจียง
จ้าวซันเร่งการผลิตเสื้อ เตรียมจัดส่งทางเครื่องบิน จ้าวซันมีคติว่าขาดทุนดีกว่าเสียคำพูด เหม่ยอิงอาสาคุมการผลิต จ้าวซันตกลง เกาเฟยมาบอกฉินเจียงที่อยู่กับซูหลิงเรื่องคดีของจ้าวซัน ฉินเจียงเพิ่งรู้เรื่องก็สมน้ำหน้าจ้าวซัน เกาเฟยยังบอกอีกว่าโกศิณตกลงซื้ออาวุธแล้ว ทำให้ฉินเจียงดีใจมาก ตอนนี้ ฉินเจียงคิดจะลองอยู่กินกับซูหลิงเพราะเริ่มชอบซูหลิงจริงๆ
ถึงวันเกิดผิงอัน จ้าวซันจัดงานที่บ้านสี่ฤดูและให้ต่างหูเพชรเป็นของขวัญ ผิงอันดีใจมาก ฉินเจียงพาซูหลิงมางานจึงทะเลาะกับเหม่ยอิง เพราะเหม่ยอิงเกลียดคนไร้สกุล จ้าวซันรีบมาห้าม แล้วให้ผิงอันดูแลซูหลิง จากนั้น จ้าวซันบอกฉินเจียงว่ารู้สิ่งที่ฉินเจียงทำและใช้หนี้แทนแล้ว ทำให้ฉินเจียงไม่พอใจ จ้าวซันเตือนให้ฉินเจียงระวังเกาเฟยและตั้งใจทำงาน เพราะจ้าวซันจะวางมือ ฉินเจียงกลัวจ้าวซันทำจริงจึงพูดดีขึ้น เพราะลึกๆแล้วเขายอมรับว่าจ้าวซันเก่ง ซูหลิงกลับมาคุยกับสองหนุ่มเรื่องที่ตนชอบของเก่า และเคยขายของเก่า ฉินเจียงจึงคิดเปิดร้านขายของเก่าให้ซูหลิงโดยมีจ้าวซันสนับสนุน ซูหลิงเห็นว่าจ้าวซันเป็นคนดี จึงไม่อยากให้ฉินเจียงมีอคติ ผิงอันพาบราลีมาแนะนำ บราลีกับจ้าวซันดีใจที่ได้เจอกัน จ้าวซันขอให้บราลีมาสอนภาษาผิงอัน บราลียังไม่ตอบรับ จ้าวซันพาบราลีชมรอบบ้านทำให้เหม่ยอิงไม่พอใจ เธอบอกคุณนายสี่ ผู้เป็นแม่ว่าสิ่งที่เธอต้องการ เธอต้องได้ แม้แต่ตัวจ้าวซัน คุณนายสี่หวาดหวั่นกับท่าทีของเหม่ยอิง
วันต่อมา จ้าวซันนัดบราลีกับคุณพ่อบาทหลวงไปทานข้าวที่ร้านเล็กๆ ร้านประจำของเขา บราลีตอบรับสอนภาษาให้ผิงอัน ทั้งสามได้พบผู้กองเหลียงจึงรู้ว่ายังหาเจิ้นจง คนขับไม่พบ และคนร้ายเปลี่ยนตู้คอนเทนเนอร์หลังรถ ผู้กองเหลียงเตือนให้จ้าวซันระวังอันตรายโดยเฉพาะในงานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาทแห่งคีรีรัฐ บราลีคุ้นชื่อคีรีรัฐแต่ไม่ได้คำตอบจากใคร หลังจากนั้น จ้าวซันไปส่งบราลีสอนภาษาผิงอัน เขาสัญญาว่าจะมารับบราลีไปส่งบ้าน เหม่ยอิงมาพูดกันท่าบราลีกับจ้าวซัน บราลีไม่คิดจะโต้แย้ง ผิงอันเข้ามาขัดจังหวะและขอโทษแทนพี่สาว
ผู้กองเหลียงนัดจ้าวซันมาพบ จ้าวซันจึงให้หลี่ไปรับบราลีแทน แต่เขาก็หงุดหงิดเมื่อรู้ว่าบราลีนั่งรถเมล์กลับ ผู้กองเหลียงแนะนำให้จ้าวซันรู้จักหมวดจาง ลูกน้องและอเล็กซ์ จากหน่วยพิสูจน์-หลักฐาน อเล็กซ์พบศพเจิ้นจงคนขับ แต่ไม่แน่ใจเพราะศพหน้าเละ เต๋อเป่าจำรอยสักที่แขนเจิ้นจงได้จึงไปช่วยยืนยัน ผู้กองเหลียงบอกจ้าวซันว่าตู้คอนเทนเนอร์ที่ถูกเปลี่ยนเป็นของบริษัทที่ตั้งขึ้นลอยๆ ไร้พนักงาน ไร้ที่อยู่ จ้าวซันช่วยอะไรไม่ได้จึงขอตัว เขาไปหาบราลีที่บ้านหลินจื้อเหม่ยเพราะเป็นห่วง บราลีย้ำว่าเธอโตพอที่จะเดินทางคนเดียวได้ แต่จ้าวซันกลัวบราลีไม่ปลอดภัยจึงยื่นข้อเสนอให้รถคันเล็กกับบราลีไว้ใช้ บราลียอมตกลง จ้าวซันเล่าเรื่องคดีให้ฟัง ทำให้บราลีเห็นใจเขามากขึ้น
ศิขรนโรดม และผู้ติดตามมาถึงเมืองไทย องค์ชายขอพักโรงแรมเป็นการส่วนตัว ราชิดเห็นว่าศิขรนโรดมไม่มีพิษภัยจึงยอม โกศิณมาบอกราชิดว่าการติดต่ออาวุธเรียบร้อย ภูสินทรแกล้งเป็นลมต่อหน้าองค์ชาย ศิขรนโรดมรีบช่วยเหลือทันทีจนภูสินทรซึ้งน้ำพระทัย แต่ใบหน้าของศิขรนโรดมที่คล้ายจ้าวซันมาก ทำให้ภูสินทรตัดสินใจไปฮ่องกงเพื่อดูแลความปลอดภัยให้จ้าวซัน
ผิงอันเล่าให้คุณนายสี่ผู้เป็นแม่ และอาม่าฟังว่าแม่ใหญ่อยากพบบราลี แล้วยังสั่งให้ผิงอันตั้งใจเรียนเพราะต่อไปต้องทำงานหนักสร้างความแปลกใจให้คนที่ฟังมาก เหม่ยอิงกลับมาบ้านก็เถียงกับผิงอันเรื่องบราลี คุณนายสี่จึงเตือนสติเหม่ยอิงว่า ผิงอันรักเหม่ยอิงมากขนาดยกของขวัญที่จ้าวซันให้กับเหม่ยอิง นางขอให้เหม่ยอิงหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำโดยเฉพาะคิดเป็นใหญ่ในตระกูลจ้าว เหม่ยอิงสะท้อนใจแต่ก็ไม่คิดถอย เธอนัดพบเกาเฟย เหม่ยอิงทำให้เกาเฟยยอมร่วมมือโดยเอาครอบครัวของเกาเฟยมาต่อรอง เธอเป็นคนทำทุกอย่างให้จ้าวซันกับฉินเจียงผิดใจกัน เธอวางแผนว่าวันส่งอาวุธงวดสุดท้ายคือจุดจบของฉินเจียง ส่วนจ้าวซันมีสองทางเลือก คือ ร่วมมือกับเธอ หรือต้องเลิกทำธุรกิจ เพราะระหว่างที่คุมการผลิตเสื้อ เธอใช้ผ้าคุณภาพต่ำกว่ามาตรฐาน ถ้าส่งออก อเมริกาจะไม่เชื่อถือจ้าวซันอีก แต่ถ้าจ้าวซันร่วมมือ เธอจะส่งของจริงไปแทน หมวดจางแอบตามมาเพราะได้รับคำสั่งให้ดูความเคลื่อนไหวของคนในบ้านสี่ฤดู เขาไม่รู้ว่ารถที่ตนตามมาเป็นของใครจึงตรวจสอบ เหม่ยอิงกลับถึงบ้านก็ไปหาผิงอันในห้องนอน ผิงอันงัวเงียตื่นขึ้นมาบอกไม่ให้เหม่ยอิงออกไปคนเดียวดึกๆเพราะเป็นห่วง เหม่ยอิงซึ้งใจน้องมาก
จ้าวซันนั่งแท็กซี่ไปหาบราลีแต่เช้า แล้วพาไปเลี้ยงอาหารเด็กกำพร้า เพราะวันนี้เป็นวันเกิดจ้าวซัน บราลีอวยพรวันเกิดให้ จ้าวซันเล่าว่าอนาคตจะสร้างสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าและอยากให้บราลีมาช่วย บราลีไม่ตอบ เหม่ยอิงหาจ้าวซันไม่พบก็หงุดหงิดมาก ขณะที่จ้าวซันกลับมาทำงานด้วยความสุข
ผิงอันพาบราลีมาหาแม่ใหญ่ แม่ใหญ่ชมบราลีว่าสวย และเป็นคนจริงใจ ผิงอันบอกบราลีว่า แม่ใหญ่ชอบพูดเรื่องตระกูลจ้าวจะไม่เหลือใคร ผิงอันต้องดูแล ที่สำคัญ แม่ใหญ่ขอให้บราลีช่วยดูแลจ้าวซัน ผิงอันเองก็อยากให้บราลีเป็นพี่สะใภ้ บราลีไม่ตอบรับแล้วขอตัวกลับทันที เมื่อบราลีถึงบ้าน-เพื่อน เธอเห็นชายคนหนึ่งซุ่มมองอยู่ก็ไม่สบายใจ
ผู้กองเหลียงได้ข้อมูลว่ารถที่หมวดจางเห็นเป็นของเหม่ยอิง เขาจึงเริ่มสนใจเหม่ยอิง หมวดจางกับผู้กองเหลียงไปรับเสด็จองค์รัชทายาทที่สนามบิน ระหว่างทาง มีผู้หวังดีโทรบอกว่ามีเงินจำนวนมากโอนเข้าเซฟบริษัทตระกูลจ้าวซึ่งฉินเจียงดูแล โดยไม่มีใบฝากเงิน ผู้กองเหลียงจึงสั่งระงับการเบิกจ่ายเงินจำนวนนี้ ที่สนามบิน คนตระกูลจ้าวไม่มีใครมา ขณะที่องค์รัชทายาทมาพร้อมผู้ติดตาม เกาเฟยแอบมาติดต่อกับโกศิณ หมวดจางเห็นก็รีบบอกผู้กองเหลียง แต่ผู้กองไม่ทันมองจึงต้องรอดูจากภาพถ่ายที่ให้จ่าหมงถ่ายไว้ ระหว่างกลับ ผู้กองกับหมวดจางเห็นรถเหม่ยอิงก็แปลกใจที่เธอไม่ยอมปรากฏตัว
สาเหตุที่ฉินเจียงไม่มาสนามบินเพราะอยู่เปิดร้านซูหลิง ขณะที่จ้าวซันประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล หลี่อาการหนักกว่า คุณพ่อบาทหลวง เหม่ยอิง ผิงอัน และบราลีมาเยี่ยมจ้าวซัน บราลีเป็นห่วงจ้าวซันแต่แสดงออกไม่ได้ จ้าวซันดีใจที่บราลีมา เขาขอให้บราลีไปงานต้อนรับองค์-รัชทายาท แต่ไม่ทันได้คำตอบ จ้าวซันก็หลับไปเพราะฤทธิ์ยา บราลีจึงเลี่ยงออกจากห้องสวนกับภูสินทรที่มาเยี่ยมจ้าวซัน ภูสินทรแนะนำตัวว่าชื่อเมืองเทพ เป็นเพื่อนสุริยะ เขาทำตามแผนของจ้าวซันคืออ้างว่าสุริยะได้รับเชิญไปงานต้อนรับองค์รัชทายาทก็อยากให้บราลีไปด้วย จึงฝากชุดและจดหมายมากับภูสินทร บราลีตกลงไปงานพร้อมภูสินทร วันต่อมา บราลีมาสอนผิงอันจึงรู้ว่าจ้าวซันกลับมาพักที่บ้านแล้ว ผิงอันพาบราลีไปหาจ้าวซัน ทำให้บราลีเห็นเหม่ยอิงเอาใจจ้าวซันออกนอกหน้า เธอรีบบอกว่าจะไปงานกับภูสินทร แล้วขอตัวกลับทันทีเพราะทนเห็นภาพนั้นไม่ได้
บราลีมาหาคุณพ่อบาทหลวงเพื่อถามถึงอดีต คุณพ่อบาทหลวงบอกแค่ว่า บราลีเคยอยู่กับครอบครัวอื่นมาก่อน แต่ทุกคนอยากให้บราลีได้สิ่งที่ดีที่สุดจึงให้บราลีมาอยู่กับสุริยะ คุณพ่อบาทหลวงพูดถึงจ้าวซันด้วยความเป็นห่วงที่เขาไว้ใจคนมากไปจนอันตราย บราลีจึงเริ่มห่วงบ้าง จ้าวซันมาง้อบราลีเพราะคิดว่าเธอโกรธ แต่เธอปฏิเสธ จ้าวซันเล่าชีวิตวัยเด็กในฮ่องกงที่เรียนรู้อะไรหลายอย่าง บราลีพูดถึงเรื่องที่ไปหาคุณพ่อบาทหลวงมา เธอถามจ้าวซันว่ามีน้องสาวอีกคนหรือไม่ แต่จ้าวซันไม่ตอบ บราลีแยกกลับบ้านก็รู้จากหลินจื้อเหม่ยว่ามีชายแปลกหน้ามาหา บราลีนึกถึงชายที่แอบดูเธอวันนั้นอย่างไม่สบายใจ
อาหมงนำภาพถ่ายที่สนามบินมาให้ผู้กองเหลียงกับหมวดจางดู ทุกคนคุ้นหน้าศิขรนโรดม แต่พวกเขาสนใจเกาเฟยมากกว่า อาหมงเล่าว่าเกาเฟยเคยช่วยพันหงปิงค้าอาวุธเถื่อน เมื่อพันหงปิงถูกจับ เกาเฟยก็หนีไปพร้อมอาวุธที่เหลือ ทุกคนคิดว่าฉินเจียงอาจรู้เห็น ผู้กองเหลียงให้หมวดจางสืบประวัติคีรีรัฐเพื่อประกอบคดีอาวุธเถื่อนและเก็บภาพคนของคีรีรัฐติดต่อเกาเฟยไว้เป็นหลักฐาน หมวดจางสืบจากญาติของอาหมงที่เป็นนักข่าว จนรู้ว่าคีรีรัฐเคยมีการปฏิวัติ และอาจเกิดขึ้นอีกครั้ง ด้านผู้กองเหลียงมาเยี่ยมจ้าวซันที่บ้าน ขณะที่จ้าวซันคุยกับเหม่ยอิงเรื่องงานต้อนรับองค์รัชทายาทในวันพรุ่งนี้ ซึ่งเหม่ยอิงสั่งเกาเฟยเตือนฉินเจียงแล้ว ผู้กองแปลกใจที่เหม่ยอิงสนิทกับเกาเฟยถึงขั้นสั่งได้จึงเริ่มพิจารณาเธอมากขึ้น อีกทั้ง ผู้กองยังสนใจจ้าวซันที่เก่งทุกๆด้าน จนผู้กองเหลียงคิดว่าจ้าวซันไม่ใช่เด็กเก็บตกธรรมดา
เต๋อเป่ามาบอกจ้าวซันว่าอาวุธเถื่อนของพันหงปิงอยู่ที่ฉินเจียงซึ่งจะขายให้ทหารของคีรีรัฐ จ้าวซันคิดไม่ตกทั้งเรื่องฉินเจียงและศิขรนโรดม อากงเห็นท่าทางของจ้าวซันก็ให้ข้อคิดหลายเรื่อง และย้ำให้จ้าวซันอภัยให้น้อง จ้าวซันคิดถึงเรื่องฉินเจียงและศิขรนโรดมอย่างหนัก
รุ่งเช้าวันงานเลี้ยงต้อนรับองค์รัชทายาท ฉินเจียงและเหม่ยอิงต้อนรับศิขรนโรดมที่โรงงานทอผ้าไหม จ้าวซันตัดสินใจช่วยน้องทั้งสองโดยวางแผนกับภูสินทรไม่ให้เกิดการปฏิวัติที่คีรีรัฐ จากนั้น จ้าวซันกับเต๋อเป่าก็ไปหาฉินเจียง ผู้กองเหลียงรู้เรื่องคีรีรัฐจึงมั่นใจว่าจ้าวซันเกี่ยวข้องกับศิขรนโรดม เขา-ไปหาคุณพ่อบาทหลวงพร้อมหมวดจาง ฉินเจียงแยกกับเหม่ยอิงหลังองค์รัชทายาทไปพัก เหม่ยอิงคิดว่าจ้าวซันคล้ายศิขรนโรดม เกาเฟยบอกฉินเจียงที่ตำรวจอายัดเงิน และพูดให้ฉินเจียงเข้าใจว่าจ้าวซันบอกตำรวจ ฉินเจียงโกรธมากจึงให้ลูกน้องเอาสัญญาเงินกู้ของสุริยะไปให้บราลี และพูดให้บราลีเข้าใจว่า จ้าวซันทำให้สุริยะติดการพนัน
จ้าวซันมาหาฉินเจียงจึงถูกต่อว่าเรื่องตำรวจอายัดเงิน จ้าวซันไม่รู้เรื่องนี้ เพราะเขาตั้งใจมาพูดให้ฉินเจียงยกเลิกการขนอาวุธคืนนี้ โดยสัญญาว่าจะไปจากฮ่องกงทันที ฉินเจียงคิดหนัก เกาเฟยกลัวเสียแผน และครอบครัวเป็นอันตราย จึงหว่านล้อมจนฉินเจียงยอมขนอาวุธต่อ เกาเฟยเปลี่ยนแผนให้ส่งของทางเรือทั้งหมด จ้าวซันไม่ไว้ใจเกาเฟยจึงให้เต๋อเป่าตามทุกฝีก้าว
เหม่ยอิงเอาเครื่องประดับสุดหวงของแม่ใหญ่มาใส่ไปงานคืนนี้โดยไม่กลัวจ้าวซันโกรธ เพราะของชิ้นนี้แม่ใหญ่ไม่เคยให้ใครใส่ จากนั้นเหม่ยอิงก็ไปหาเกาเฟย ขณะที่มีคนนำสัญญาเงินกู้มาให้บราลีโดยอ้างว่าเป็นลูกน้องจ้าวซัน บราลีโกรธมากจึงตามหาจ้าวซันจนรู้ว่าเขาไปหาคุณพ่อบาทหลวง บราลีรีบตามไปทันที คุณพ่อบาทหลวงมารับหน้าบราลีเพราะจ้าวซันกำลังเล่าความจริงให้ผู้กองเหลียงฟัง จ้าวซันบอกผู้กองว่าฉินเจียงถูกหักหลัง และศิขรนโรดมไม่รู้เรื่องอาวุธ โดยเขาใช้ชีวิตตัวเองเป็นเดิมพัน ผู้กองเหลียงชื่นชมในความรักและให้อภัยน้องของจ้าวซัน
บราลีต่อว่าจ้าวซันเรื่องหนี้ของสุริยะ จ้าวซันจึงบอกความจริงทุกอย่าง บราลีได้แต่นิ่งอึ้ง เธอขอไม่ไปงานคืนนี้ จ้าวซันไม่ขัดเพราะอยากให้บราลีพัก เทเรซ่าบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าถูกยิงบาดเจ็บสาหัสกำลังผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาล จ้าวซันห่วงเต๋อเป่ามาก แต่ต้องไปเตรียมตัวเพื่องานคืนนี้ เหม่ยอิงกลับมาบ้านอย่างมีพิรุธและถามจ้าวซันถึงเต๋อเป่า แต่จ้าวซันไม่บอก เหม่ยอิงยิ่งไม่สบายใจเพราะมั่นใจว่าคนที่แอบดูเธอกับเกาเฟย คือ เต๋อเป่า เหม่ยอิงกลัวจ้าวซันจับพิรุธได้จึงแสร้งสารภาพว่า เอาเครื่องเพชร สุดหวงของแม่ใหญ่มาใส่ จ้าวซันไม่ว่าอะไรเพราะกลุ้มเรื่องอื่นอยู่
ขณะที่ทางโรงแรมที่ประทับ โกศิณมารายงานราชิดเรื่องเปลี่ยนแผนส่งอาวุธ ราชิดยังเชื่อใจฉินเจียง อสุนีเลือกทำเพื่อแผ่นดินจึงตามมาจากคีรีรัฐ แล้วแอบไปเตือนศิขรนโรดมเรื่องราชิด พ่อของอสุนีวางแผนปฏิวัติ ศิขรนโรดมไม่อยากให้ประชาชนเดือดร้อนจึงเปรยกับราชิดทำนองว่าพระองค์จะไปเรียนต่อ และให้ราชิดสำเร็จราชการแทน ทำให้ราชิดตื่นเต้นมาก
ที่งานเลี้ยง จ้าวซันเห็นฉินเจียงกับซูหลิงมางานก็จะไปคุยด้วย แต่ฉินเจียงเลี่ยงตลอดเวลา จ้าวซันจึงมั่นใจว่าฉินเจียงไม่เปลี่ยนใจ องค์รัชทายาทเสด็จมาในงาน จ้าวซันมารับเสด็จ ศิขรนโรดมจำ พระเชษฐาได้ แต่ก็ทำเฉยตามที่จ้าวซันกระซิบบอก ราชิดคุ้นหน้าจ้าวซัน ผู้กองเหลียงบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าผ่าตัดเสร็จแล้วรอเพียงฟื้นขึ้นมา แล้วผู้กองก็แยกไปเตรียมการ เหม่ยอิงรู้เรื่องเต๋อเป่าจากจ้าวซัน เธอโกรธมากที่จ้าวซันปกป้องทุกคนยกเว้นเธอ เหม่ยอิงจึงไปโกหกบราลีว่าจ้าวซันเจ็บหนัก บราลีเชื่อตามขึ้นรถจึงโดนจับไปที่โกดังใกล้ท่าเรือส่งของ
ศิขรนโรดมคุยกับจ้าวซันโดยไม่ให้คนอื่นผิดสังเกต ผู้กองเหลียงมาที่งานอีกครั้งและบอกจ้าวซันว่าเต๋อเป่าฟื้นแล้ว และ คนที่อยู่กับเกาเฟย คือ เหม่ยอิง จ้าวซันเป็นห่วงบราลีจึงให้ภูสินทรไปคุ้มกันบราลี ขณะที่เหม่ยอิงคิดใช้บราลีต่อรองให้จ้าวซันยอมทุกอย่าง เพราะจ้าวซันรักบราลี บราลีหว่านล้อมให้เหม่ยอิงเปลี่ยนใจ เกาเฟยเตรียมงานเสร็จ เหม่ยอิงจึงให้เงินเกาเฟยไปหาครอบครัวที่เมืองไทย โดยกำชับให้เกาเฟยแจ้งตำรวจเพื่อให้ฉินเจียงถูกจับ หมวดจางซุ่มดูเหตุการณ์อยู่ก็รีบแจ้งผู้กองเหลียงทันที
ในงาน ภูสินทรกับผู้ว่าฯกันองค์รัชทายาทออกจากราชิด จ้าวซันดักพบราชิด โกศิณเป็นคนรุ่นใหม่จึงไม่รู้จักน่านปิงนรเทพ ราชิดปฏิเสธเรื่องที่จ้าวซันกล่าวหาแต่เหตุการณ์ไม่เอื้อ โดยเฉพาะเรื่องอาวุธเถื่อนที่มีอสุนีเป็นพยาน ราชิดเสียใจที่ลูกหักหลัง โกศิณกลัวความผิดจึงมอบตัวและยอมเล่าความจริง ฉินเจียงถูกจับ แต่จ้าวซันยืนยันจะช่วยฉินเจียงให้ถึงที่สุด และบอกฉินเจียงว่าเหม่ยอิงวางแผนทุกอย่าง ฉินเจียงเสียใจที่เข้าใจจ้าวซันผิด ภูสินทรมาบอกจ้าวซันว่าบราลีหายไป จ้าวซันจึงไปกับผู้กองเหลียง หมวดจางได้รับคำสั่งจากผู้กองเหลียงให้บุก บราลียอมเล่าอดีตที่เจ็บปวดของตนกับจ้าวซันเพื่อให้เหม่ยอิงได้คิด เธอสัญญาว่าจะเป็นเพื่อนเหม่ยอิง และไม่มีวันทิ้งเหม่ยอิง เหม่ยอิงคิดได้และเสียใจที่ตนเองคิดผิด เหม่ยอิงฝากสร้อยเพชรกับบราลีไปคืนจ้าวซัน บราลีให้เหม่ยอิงจับเธอเป็นตัวประกันฝ่าวงล้อมตำรวจจนไปถึงรถ แต่เสียงเรียกของจ้าวซันทำให้เหม่ยอิงหันมามอง ตำรวจคิดว่าเหม่ยอิงจะต่อสู้จึงยิงเหม่ยอิงทันที เหม่ยอิงขอโทษจ้าวซัน จ้าวซันก็ยอมยกโทษให้ เหม่ยอิงหันมาขอบคุณบราลีก่อนจากไปอย่างสงบ
ฉินเจียงสำนึกผิดจึงรับดูแลเรื่องงานศพของเหม่ยอิง ผู้กองเหลียงตามจับเกาเฟยสำเร็จ จ้าวซันขอร้องให้แม่ใหญ่ยอมรับฉินเจียง แม่ใหญ่รับปากแต่ขอให้จ้าวซันกลับมาฮ่องกงหลังทำธุระเสร็จ จ้าวซันสัญญา แล้วเขาก็ไปพบศิขรนโรดมพร้อมผู้กองเหลียง และภูสินทร เมื่อรู้ว่าที่คีรีรัฐยังมีนายพลจตุรัส คนของราชิดอยู่ จ้าวซันจึงตัดสินใจไปคีรีรัฐกับภูสินทร เพื่อจัดการนายพลจตุรัสก่อนศิขรนโรดมจะกลับไป ศิขรนโรดมเป็นห่วงจ้าวซันจึงให้อสุนีไปด้วย เพราะอสุนีน่าจะช่วยให้ทุกอย่างสำเร็จง่ายขึ้น
งานศพเหม่ยอิงผ่านไป แม่ใหญ่เปิดพินัยกรรมโดยที่ไม่มีจ้าวซันเข้าฟัง บราลีเตรียมตัวกลับเมืองไทย เธอรู้ว่าจ้าวซันจะไปคีรีรัฐก็เข้าใจว่าเขาจะไปทวงสิทธิ์จึงเสียใจมาก จ้าวซันไปเยี่ยมเต๋อเป่า ก่อนมาอธิบายให้บราลีเข้าใจ เขาสัญญาจะกลับมาหาบราลี บราลีสัญญาจะรอ ภูสินทรพาศิขรนโรดมกับคำฝายมาหาจ้าวซันและบราลี คำฝายกอดบราลีด้วยความคิดถึง
จ้าวซันเดินทางมาคีรีรัฐ เขาแวะมาหาครูเฒ่าที่กระท่อมเพื่อเล่าแผนการทั้งหมด และฝากตราสุรสีหนาทกับครูเฒ่าเพื่อมอบให้ศิขรนโรดม อสุนีไม่ไว้ใจจ้าวซันเพราะคิดว่าจะมาแย่งตำแหน่ง เจ้าหลวงกับศิขรนโรดม ภูสินทรก็กลัวอสุนีทำร้ายจ้าวซัน แต่จ้าวซันคิดว่าอสุนีจะไม่ทำอย่างนั้น
อสุนีทวนแผนกับจ้าวซันและภูสินทร แผนคืออสุนีนำจดหมายของโกศิณไปให้นายพล-จตุรัสและบอกว่ามีอาวุธใหม่มาขาย จึงจะให้นายพลจตุรัสมาดูในงานเลี้ยงที่บ้านอสุนี แล้วค่อยจัดการ ตอนแรกอสุนีจะให้ทหารคุมนายพลจตุรัสไปผาห่มดอก เมื่อเสร็จงานก็จะฆ่าทหารทิ้ง แต่จ้าวซันเตือนให้อสุนีไว้ใจคนอื่นเหมือนที่ศิขรนโรดมไว้ใจอสุนี แล้วจ้าวซันก็บอกว่าเขากับภูสินทรจะจัดการเอง แล้วจากนั้นจ้าวซันจะไปขึ้นเรือที่แม่น้ำเวียงสายกลับทันที อสุนีไม่เชื่อ มิถิลามาหาอสุนีแล้วถามถึงศิขรนโรดม อสุนีเข้าใจความรู้สึกของน้อง แต่ก็เตือนว่าบางอย่างเป็นไปไม่ได้ แล้วอสุนีก็เล่าให้มิถิลาฟังว่าจะกำจัดจ้าวซัน ภูสินทรแอบฟังอยู่ก็เจ็บใจแทน เขาหาทางช่วยเหลือจ้าวซันจึงไปปรึกษาครูเฒ่า แต่ภูสินทรต้องตกใจมากเมื่อพบบราลีอยู่กับครูเฒ่า บราลีเล่าว่าเป็นห่วงจ้าวซันมากเลยขอให้ศิขรนโรดมช่วยเหลือ องค์ชายน้อยจึงส่งบราลีมาหาครูเฒ่า ภูสินทรเล่าถึงแผนการคืนนี้ และเรื่องที่อสุนีจะกำจัดจ้าวซัน ครูเฒ่าบอกเพียงว่า ถ้าเขาอยากให้เราตาย เราก็ต้องตาย
จ้าวซันกับภูสินทรปลอมตัวไปบ้านอสุนี ภูสินทรพาบราลีที่ปลอมเป็นศิษย์ครูเฒ่ามาด้วย โดยบอกว่าเด็กเป็นใบ้ จ้าวซันสงสัยแต่ไม่มีเวลาถาม อสุนีพาจ้าวซันไปรู้จักกับนายพลจตุรัสในนาม อัครา ส่วนภูสินทรใช้ชื่อ แสนภูดาษ จ้าวซันหลอกพานายพลจตุรัสเดินมาดูอาวุธ จากนั้นอสุนีก็บอกความจริงว่าราชิดกับโกศิณถูกจับแล้ว จ้าวซันกับภูสินทรจับนายพลจตุรัสไปขังที่ผาห่มดอก เมื่อเสร็จภารกิจ จ้าวซัน ภูสินทร และเด็กใบ้แยกทางกับอสุนี บราลีเปิดเผยตัวทำให้จ้าวซันทั้งอึ้งและดีใจมาก ภูสินทรให้จ้าวซันกับบราลีขึ้นเรือและบอกว่าจะพายออกไปกลางแม่น้ำแล้วค่อยติดเครื่องเรือ หลังจากนั้นให้บราลีกับจ้าวซันดำน้ำให้ลึกที่สุด เมื่อภูสินทรติดเครื่องเรือจริงๆเรือก็ระเบิดทันที อสุนียืนมองด้วยสายตานิ่งเฉย จ้าวซัน บราลีและภูสินทรรอดตาย ทั้งสามว่ายขึ้นฝั่งและรอลูกศิษย์ครูเฒ่ามารับ ภูสินทรเล่าว่าเขาคิดจากคำพูดของครูเฒ่าคือต้องทำให้อสุนีคิดว่าจ้าวซันตาย หลังผ่านเหตุการณ์ร้ายครั้งนี้ จ้าวซันกับบราลีก็บอกรักกัน
จ้าวซันกลับมาฮ่องกง ขณะที่ผิงอันกำลังจะไปอเมริกา แม่ใหญ่ดีใจที่จ้าวซันกลับมา นางตั้งใจจะรับขวัญว่าที่ภรรยาของจ้าวซันด้วยสร้อยเพชรสุดหวง ทำให้จ้าวซันซึ้งใจมาก คุณนายสี่ยัง-ซึมเศร้าเรื่องเหม่ยอิง จ้าวซันได้แต่ปลอบใจ
จ้าวซันมาเยี่ยมฉินเจียงโดยได้ผู้กองเหลียงช่วยเหลือ ผู้กองเหลียงดีใจที่พบจ้าวซันอีกครั้ง เขาบอกว่าองค์รัชทายาทกลับแล้วเพราะอสุนีส่งจดหมายด่วนมา จ้าวซันไปเยี่ยมฉินเจียงเขารู้สึกว่าฉินเจียงเป็นผู้ใหญ่ขึ้น ก่อนกลับ จ้าวซันเตือนไม่ให้ฉินเจียงดูถูกความรักของซูหลิง บราลีเตรียมกลับเมืองไทย ทั้งที่ไม่อยากจากจ้าวซัน แต่เธอต้องไปช่วยสุริยะที่มีปัญหาเรื่องเงิน
เกาเฟยหนีออกจากคุกได้ก็ไปหาไอ้สือ ลูกน้องคนสนิทซึ่งตอนนี้ก็อยู่หลบๆซ่อนๆกับเมียท้องแก่ ไอ้สือสละเงินที่มีอยู่ให้เกาเฟยหนี แต่เกาเฟยสงสารจึงเอาเงินไปแค่เล็กน้อยเท่านั้น
จ้าวซันมาประชุมที่บริษัทพร้อมภูสินทรในชื่อ เมืองเทพ ผู้ช่วยของจ้าวซันในนามตัวแทนของฉินเจียง ทำให้ทุกคนดีใจมากและการประชุมเป็นไปอย่างเรียบร้อย จ้าวซันสั่งให้ทำทุกอย่างเสร็จก่อนบ่ายสาม เพราะเขาจะดูถ่ายทอดการรับตำแหน่งเจ้าหลวงแห่งคีรีรัฐ ระหว่างพักทานอาหาร เกาเฟยลอบเข้ามาบังคับให้จ้าวซันหยิบเงินให้ แล้วเขาก็จับจ้าวซันเป็นตัวประกันเพื่อหลบหนี เทเรซ่าและทุกคนตกใจที่จ้าวซันถูกจับ ระหว่างนั้นผู้กองเหลียงมาหาจ้าวซันจึงรู้เรื่อง เขาให้ตำรวจล้อมเกาเฟยไว้ เกาเฟยนึกว่าจ้าวซันบอกตำรวจจึงยิงจ้าวซันที่ขาและตั้งใจจะยิงซ้ำ แต่อสุนีซึ่งถือจดหมายของศิขรนโรดมมาจากคีรีรัฐเข้ามารับกระสุนแทน เกาเฟยถูกตำรวจรวบตัวไว้ได้
จ้าวซันไม่เป็นอะไรมาก แต่อสุนีบาดเจ็บสาหัส อสุนีขอพระราชทานอภัยและเคารพจ้าวซันเป็นครั้งสุดท้ายก่อนสิ้นลม จ้าวซันอโหสิให้อสุนี บราลีพาจ้าวซันกลับไปพัก ทั้งคู่สัญญาว่าจะมีเพียงกันและกันตลอดไป
ในจดหมายของศิขรนโรดม มีใจความว่า ศิขรนโรดมเสียใจเพราะคิดว่าจ้าวซันเสียแล้ว พระองค์จะไม่รับตำแหน่งเจ้าหลวง แต่ครูเฒ่าก็เล่าเรื่องทั้งหมดพร้อมมอบตราสุรสีหนาทให้ศิขรนโรดม ศิขรนโรดมดีใจที่จ้าวซันยังไม่ตาย พระองค์ยอมรับตำแหน่งเพราะเห็นแก่จ้าวซัน อสุนีโล่งใจที่จ้าวซันปลอดภัยจึงรับอาสามาส่งจดหมาย จากนั้นอสุนีจะกลับมาบวชชดเชยความผิดตลอดชีวิต เรื่องความรัก ศิขรนโรดมมีใจให้มิถิลาแต่ยังไม่ได้พูดกัน นอกจากนี้ พระเทวีสิริวาระตีทรงฝากพระธำมรงค์ซึ่งเจ้าหลวงแห่งคีรีรัฐจะมอบให้พระเทวีทุกสมัยให้เป็นของขวัญกับจ้าวซัน ศิขรนโรดมถวายคำสัตย์แก่จ้าวซันผ่านจดหมายว่าจะดูแลคีรีรัฐให้ดีที่สุด เพื่อตอบแทนความเสียสละอันยิ่งใหญ่ของจ้าวซัน ศิขรนโรดมรู้ว่าวันที่จ้าวซันรอคอยมาถึงแล้ว พระองค์หวังว่าสักวันจะได้พบจ้าวซัน หรือน่านปิงนรเทพอีกครั้ง
คาแร็กเตอร์
ตัวละครเรื่อง “วันนี้ที่รอคอย” ( คีรีรัฐนคร )
1. น่านปิงนรเทพ หรือจ้าวซัน(พระเอก)
ราชบุตรแห่งคีรีรัฐนคร อายุประมาณ 32-35 ปี น่านปิงนรเทพ(พระเอกวัยเด็ก) เป็นราชบุตรของเจ้าหลวงพีริยเทพ และพระเทวีศุลีมานผู้ปกครองคีรีรัฐนคร แต่เมื่อโชคชะตากลั่นแกล้งทำให้ต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดตั้งแต่เด็กเพราะปัญหาภายในประเทศ จึงทำให้เติบโตมาด้วยความแข็งแกร่ง แต่ภายในจิตใจกลับเป็นคนอ่อนโยน มีเมตตา คอยช่วยเหลือผู้อื่นตลอดเวลา และเป็นคนฉลาด ขณะที่ใช้ชีวิตเป็นคนธรรมดาสามัญก็ได้เปลี่ยนชื่อเป็น จ้าวซัน(พระเอก) จากนั้นได้มาอยู่กับเต้(พ่อบุญธรรม) นักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง และได้สืบทอดกิจการต่อหลังจากเต้(พ่อบุญธรรม)ตาย การที่จ้าวซัน(พระเอก) ใช้ชีวิตอยู่ที่ฮ่องกงทำให้ชีวิตเขาวนกลับมาเจอกับบราลี(นางเอก) อีกครั้ง สุดท้ายเขายอมยกตำแหน่งเจ้าเมืองให้กับศิขรนโรดม(ลูกพี่ลูกน้อง) ที่เขารักสืบทอดตำแหน่งต่อไป
2. ม่านฟ้า หรือบราลี (นางเอก)
หญิงสาวอายุประมาณ 23-25 ปี เป็นคนสวย เก่ง ฉลาด และคล่องแคล่ว เพิ่งเรียนจบจากต่างประเทศ ม่านฟ้า(นางเอกวัยเด็ก) เป็นลูกสาวของราชองครักษ์ที่คอยดูแลราชบุตร เธอเปรียบเสมือนน้องสาวสุดที่รักของน่านปิงนรเทพ(พระเอก) เพราะเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อเกิดการปฏิวัติประเทศครั้งใหญ่เลยทำให้ต้องพลัดพรากจากกัน เมื่อพ่อกับแม่ต้องมาตายชีวิตเธอก็ต้องไปอยู่กับพลตรีสุริยะ(พ่อบุญธรรม) และได้เปลี่ยนชื่อใหม่เป็นบราลี(นางเอก) เธอจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เธอจึงพยายามค้นหาอดีตของเธอมาตลอด จนได้มาพบกับจ้าวซัน(พระเอก) อีกครั้งและคอยเป็นครูช่วยสอนภาษาอังกฤษให้กับผิงอัน(น้องสาวพระเอก) ก็ยิ่งทำให้เธอสนิทสนมกับจ้าวซัน(พระเอก)มากขึ้น และเมื่อรู้เรื่องราวในอดีตที่เธอกับพระเอกเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ก็ยิ่งทำให้ทั้งสองกลับมารักกันอีกครั้ง
3. ศิขรนโรดม (ลูกพี่ลูกน้องพระเอก)
ชายหนุ่มอายุประมาณอายุ 30-33 ปี ศิขรณโรดมเป็นลูกชายของเจ้าชายมาทยาธร และสิริวาระตี มีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องกับจ้าวซัน ซึ่งมีหน้าตาละม้ายคล้ายจ้าวซันมาก เขากับจ้าวซันรักและสนิทกันมาก เขาเป็นคนดี ซื่อสัตย์ แต่ไม่ชอบเรื่องการปกครอง แต่ถูกจ้าวซันขอร้องแกมบังคับให้เรียนด้วยความรักและเคารพจ้าวซัน เขาจึงยอมทำตามทุกอย่าง ทั้งๆ ที่ไม่ชอบการปกครอง แต่ยอมปกครองคีรีรัฐนครเพื่อรอจ้าวซันตัวจริงกลับมา
4. อสุนี (เพื่อน และองครักษ์ของศิขรนโรดม)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 30-33 ปี เป็นเพื่อนเรียนและองครักษ์ของศิขรนโรดม เป็นลูกชายของพลเอกราชิด เป็นคนดี มีความซื่อสัตย์ และคอยเป็นห่วงศิขรนโรดม อสุนีไม่เห็นด้วยที่พ่อของตัวเองจะทำการปฏิวัติคีรีรัฐนคร จึงพยายามหาทางบอกเรื่องนี้กับศิขรนโรดมแต่ไม่มีโอกาส สุดท้ายอสุนีต้องมาตาย เพราะยอมสละชีวิตของตัวเองรับกระสุนแทนจ้าวซัน
5. มิถิลา (น้องสาวอสุนี / ลูกราชิด)
หญิงสาวอายุประมาณ 25 ปี เป็นลูกสาวของพลเอกราชิด และเป็นน้องสาวของอสุนี มิถิลากำลังจะเข้าถวายตัวเป็นข้าหลวงของพระเทวีศุลีมาน เธอไม่เห็นด้วยกับการที่พ่อจะทำการปฏิวัติคีรีรัฐนคร จึงคอยรายงานความเคลื่อนไหวของพ่อให้พี่ชายรู้ถึงแผนการชั่ว
6. เจ้าหลวงพีริยเทพ (พ่อพระเอก)
กษัตริย์ผู้ปกครองคีรีรัฐนครอายุประมาณ 50 ปี ผู้มองการณ์ไกล รักและเอาใจใส่ประชาชน จิตใจอ่อนโยน เด็ดเดี่ยว ทำให้ประชาชนรักและเคารพพระองค์เป็นอย่างมาก แต่สุดท้ายพระองค์ยอมสละชีวิตตัวเองโดยการดื่มยาพิษของพี่ชายจนสิ้นพระชนม์ เพียงเพื่อรักษาประเทศและประชาชนที่ท่านรักเอาไว้
7. พระเทวีศุลีมาน (แม่พระเอก)
ราชินีแห่งคีรีรัฐนครอายุประมาณ 45 ปี ผู้ที่รักครอบครัวยิ่งกว่าสิ่งใด มีความเข้มแข็ง และอดทนชีวิตจะต้องพลัดพรากจากบ้านเกิดเมืองนอน แต่พระองค์ก็ยังดูแลลูกชายได้เป็นอย่างดี สุดท้ายเมื่อรู้ว่าสามีตาย จึงตรอมใจตายตามไปในที่สุด
8. เจ้าชายมาทยาธร (พ่อศิขรนโรดม)
พี่ชายของเจ้าหลวงพีริยเทพอายุประมาณ 52 ปี เป็นคนทะเยอทะยาน มองการณ์ไกล แต่เสียที่เป็นคนขี้อิจฉาโดยเฉพาะน้องชายที่ถูกเลือกให้เป็นเจ้าเมืองปกครองคีรีรัฐ และด้วยแรงอิจฉาทำให้เขาหน้ามืดตามัวคิดทำการปฎิวัติประเทศโดยการนำยาพิษให้น้องชายตัวเองดื่ม เพื่อให้ตนได้เป็นใหญ่ปกครองคีรีรัฐแต่เพียงผู้เดียว
9. สิริวาระตี (แม่ศิขรนโรดม)
หญิงอายุประมาณอายุ 40 ปี สิริวาระตีเป็นภรรยาของมาทยาธร และเป็นพี่สาวของแม่พระเอก เป็นคนจิตใจดี เห็นแก่ความถูกต้อง ครั้งที่สามีของเธอคิดจะปฏิวัติประเทศ เธอก็ไม่อาจเปลี่ยนใจสามีได้ จึงทำได้แค่เพียงคอยให้ความช่วยเหลือน้องสาว และหลานชายในการหนีเพื่อให้มีชีวิตรอดต่อไป
10. อินปง (พ่อนางเอก)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี อินปงเป็นพ่อของบราลี(นางเอก) และเป็นราชองครักษ์ประจำครอบครัวของจ้าวซัน เขาเป็นคนซื่อสัตย์ มีความกตัญญู และจงรักภักดีต่อเจ้าหลวงพีริยเทพ(พ่อพระเอก) เป็นอย่างมาก และเมื่อคราวที่เจ้าชายมาทยาธรปฏิวัติประเทศ อินปงก็คอยทำหน้าที่คุ้มกันจ้าวซัน และพระเทวีศุลีมานหนีออกจากคีรีรัฐนคร พร้อมด้วยภรรยาและบราลี(นางเอก)ลูกสาวของเขา แต่สุดท้ายอินปงกับภรรยาก็หนีการตามล่าของลูกน้องเจ้าชายมาทยาธรไม่พ้น เลยชิงฆ่าตัวตายในที่สุด
11. จันทร์แรม (แม่นางเอก)
หญิงสาวอายุประมาณ 28 ปี จันทร์แรมเป็นภรรยาของอินปง และเป็นแม่ของม่านฟ้าหรือบราลี(นางเอก) เธอจงรักภักดีกับครอบครัวของเจ้าหลวงพีริยเทพ(พ่อพระเอก)มาก จันทร์แรมคอยปกป้องดูแลพระเทวีศุลีมานและจ้าวซัน รวมถึงลูกสาวของเธอก่อนที่เธอจะชิงฆ่าตัวตายไปพร้อมกับสามี
12. ภูสินทร หรือเมืองเทพ (ราชองครักษ์ประจำตัวพระเอก)
ชายอายุประมาณ 35 ปี ราชองครักษ์ของจ้าวซัน ที่คอยดูแลจ้าวซันและพระเทวี ตั้งแต่ครั้งที่ต้องหนีออกนอกคีรีรัฐนครแต่เคราะร้ายที่ภูสินธรสู้พวกของพลเอกราชิดไม่ได้ ได้รับบาดเจ็บสาหัส และถูกจับตัวไปไว้ที่ผาห่มดอก แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากครูเฒ่า เมื่อเวลาผ่านไป 10 ปี ภูสินธรได้ผ่าตัดใบหน้าใหม่ และได้กลับมาพบกับจ้าวซันในชื่อใหม่ ว่า เมืองเทพ เป็นนักธุรกิจไทยโดยอาศัยอยู่กับคำฝายและคอยติดต่อจ่าวซันเรื่อยมาเพื่อให้จ้าวซันคอยระวังตัว และคอยแอบช่วยเหลือจ้าวซัน
13. บายศรี (ภรรยาภูสินธร)
หญิงอายุประมาณ 30 ปี ภรรยาภูสินธร เป็นข้าหลวงของพระชายาสิริวาระตี แต่จงรักภักดีกับเจ้าหลวงพีริยเทพ จึงคอยติดตามฟังความเคลื่อนไหวต่างๆเพื่อคอยช่วยเหลือพระเทวีและราชบุตร เมื่อรู้ว่าสามีของตนถูกจับจึงหาทางช่วยสามีโดยไปเล่าให้พระชายาสิริวาระตีฟัง จนพระชายาสิริวาระตีหาทางช่วยสามีตนเองได้และได้ออกไปอารักขาพระเทวี และราชบุตรต่อไป
14. พลเอกราชิด (ราชองครักษ์ของเจ้าชายมาทยาธร)
ชายอายุประมาณ 40 ปี เป็นราชองครักษ์ประจำตัวของเจ้าชายมาทยาธร เป็นคนคิดการใหญ่ ร่วมมือกับเจ้าชายหวังจะปฏิวัติคีรีรัฐนคร และยังเป็นคนตามฆ่าองครักษ์ของเจ้าหลวงพีริยเทพให้หมดสิ้น เพื่อจะได้ไม่มีใครเป็นเสี้ยนหนามในการยึดครองเมือง และเป็นคนติดต่อเรื่องอาวุธที่ใช้ในการปฏิวัติด้วย
15. คำฝาย (คนดูแลราชบุตร)
หญิงใบ้ ที่คอยดูแลจ้าวซันและพระเทวี ตั้งแต่ครั้งที่ต้องหนีออกนอกคีรีรัฐนคร แต่เมื่อสู้พวกราชิดไม่ได้ จึงต้องหนีเอาตัวรอดโดยพาจ้าวซันและพระเทวีหนีไปด้วย และเมื่อพระเทวีตรอมใจตาย คำฝายก็ได้มาเจอกับภูสินธร ในชื่อใหม่ คือ เมืองเทพ และอยู่กับเมืองเทพ คอยให้ความช่วยเหลือจ้าวซันตลอดมา
16. ครูเฒ่า (ครูสอนหนังสือ)
ชายแก่อายุประมาณ 60 ปี เป็นครูที่สอนน่านปิงนรเทพ และศิขรนโรดม ศิขรนโรดมรักครูเฒ่ามาก ครูเฒ่ารู้เรื่องราวของคีรีรัฐนครเป็นอย่างดีจากศิขรนโรดม และเป็นคนช่วยเหลือภูสินธรให้ได้ตามหาพระเทวีและราชบุตรโดยให้ติดรถม้าไปแม่น้ำเวียงสายด้วย และมอบห่อสมบัติให้ไว้ยังชีพ
17. นายแพทย์สิงหะ (แพทย์ประจำคีรีรัฐนคร)
ชายอายุประมาณ 40 ปี แพทย์ประจำคีรีรัฐนคร เป็นผู้รักษาภูสินทรให้หายจากอาการบาดเจ็บสาหัส คอยเป็นหูเป็นตาให้ภูสินธร รวมถึงแอบส่งข่าวเรื่องพาหนีในวันงานลอยประทีปให้ภูสินธรรู้เพื่อจะได้ไปอารักขา พระเทวีและราชบุตรต่อไป
18. นายพลจัตุรัส (ลูกน้องเจ้าชายมาทยาธร)
ชายอายุประมาณ 50 ปี ลูกน้องของเจ้าชายมาทยาธร และลูกน้องของพลเอกราชิด เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในการปฏิวัติของคีรีรัฐนคร สุดท้ายโดนจับได้ว่ากบฏและถูกนำตัวไปขังที่ผาห่มดอกโดยจ้าวซันกับภูสินธร
19. คุณพ่อบาทหลวงโจเซฟ (บาทหลวงดูแลพระเอก/นางเอก)
บาทหลวงอายุประมาณ 50 ปี เป็นผู้ดูแลจ้าวซันและบราลีตั้งแต่เด็ก เป็นคนที่รู้ประวัติเรื่องราวของจ้าวซันและบราลีเป็นอย่างดี
หมายเหตุ - คุณพ่อบาทหลวงรู้จักกับพระเทวีศุลีมาน(แม่พระเอก) เมื่อท่านเดินทางไปเผยแพร่ศาสนาทางเหนือ พระเทวีก็ฝากม่านฟ้า(นางเอก)ไปด้วย คุณพ่อบาทหลวงจึงพานางเอกไปส่งให้อยู่กับพ่อเลี้ยงทางเหนือเพื่ออนาคตที่ดีของม่านฟ้า(นางเอก) สุดท้ายเมื่อนางเอกเติบโตและได้ไปเรียนต่อต่างประเทศจนจบ คุณพ่อบาทหลวงก็ได้กลับมาเจอกับนางเอกที่ฮ่องกงอีกครั้ง
(ฮ่องกง)
20. จ้าวฉินเจียง (ลูกชายเต้)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี เป็นลูกชายของเต้ที่เกิดจากหญิงชาวต่างชาติซึ่งเป็นภรรยาคนที่ 2 แต่ไม่ได้รับการยอมรับจากครอบครัว เพราะเป็นคนไม่เอาไหน ขี้อิจฉา เปรียบกับเป็นน้องชายอีกคนของจ้าวซัน และเมื่อพ่อตายและยกกิจการให้จ้าวซันจึงน้อยใจพ่อ จึงทำให้ฉินเจียงอิจฉาจ้าวซันตลอดมา แต่สุดท้ายได้กลับตัวเป็นคนดีเพราะเหตุการที่เหม่ยอิงตาย
21. เหม่ยอิง (ลูกสาวเต้กับคุณนายสี่)
หญิงสาวอายุประมาณ 28 ปี เหม่ยอิงเป็นผู้หญิงเก่ง มีความทะเยอทะยาน เขาเป็นลูกสาวของเต้กับภรรยาคนที่สาม และเมื่อได้พบกับจ้าวซันก็แอบหลงรักเพราะรู้ว่าจ้าวซันไม่ใช่พี่แท้ๆ และทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ครอบครองเจ้าซัน รวมถึงเป็นใหญ่ในตระกูลด้วย สุดท้ายเมื่อจ้าวซันคิดกับเหม่ยอิงแค่น้องสาว และรู้ว่าจ้าวซันรักบราลี เธอจึงคิดใช้บราลีเป็นเครื่องมือเพื่อให้จ้าวซันมารับรักเธอ แต่สุดท้ายเหม่ยอิงก็โดนตำรวจยิงตายเพราะเกิดจากการกระทำผิดของตนเอง
22. ผิงอัน (ลูกสาวเต้กับคุณนายสี่)
หญิงสาวอายุประมาณ 17-20 ปี ผิงอันเป็นลูกสาวของเต้กับคุณนายสี่ภรรยาคนที่สาม และเป็นน้องสาวของเหม่ยอิง ผิงอันเป็นเด็กดี ร่าเริงแจ่มใส และเป็นที่รักของทุกคนในบ้าน เป็นคนคอยช่วยเหลือจ้าวซันให้รอดพ้นจากเหม่ยอิงผู้เป็นพี่สาว และยังสนิทกับบราลี(นางเอก) เพราะบราลีเป็นครูสอนภาษาอังกฤษให้ผิงอันด้วย
23. เต้ หรือจ้าวฉินเย่ว์ (คนดูแลพระเอก/พ่อบุญธรรม)
ชายอายุประมาณ 60 ปี นักธุรกิจใหญ่ในฮ่องกง ด้วยความที่ร่ำรวยเงินทองบวกกับอิทธิพลทางธุรกิจทำให้มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตมากมาย เต้จึงมีภรรยาหลายคน และมีลูกกับภรรยาเกือบทุกคน แต่เขาเป็นนักธุรกิจที่มองการณ์ไกลจึงทำให้ธุรกิจนั้นยิ่งใหญ่ และเติบโตที่สุดในฮ่องกง และเต้ก็เป็นผู้ดูแลจ้าวซันต่อจากคุณพ่อบาทหลวง แต่สุดท้ายเต้ป่วยหนักและตายในที่สุด พร้อมยกกิจการให้จ้าวซันเป็นผู้สืบทอดต่อไป
24. จ้าวไทไท (ภรรยาเต้ / เมียหลวง)
หญิงอายุประมาณ 50 ปี จ้าวไทไทเป็นภรรยาของเต้ หรือเป็นแม่ใหญ่ของบ้าน จ้าวไทไทไม่มีลูก แต่เธอเป็นผู้หญิงเก่ง ฉลาด ถึงแม้เธอจะวางมือจากธุรกิจของครอบครัวไปแล้ว แต่เธอก็รับรู้ปัญหา และความเคลื่อนไหวภายในตระกูลของเธอเป็นอย่างดี แต่เมื่อเต้ตายจากไป จ้าวไทไทก็เก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน และชอบพูดจาแปลกๆ จนคนอื่นมองว่าเธอเพี้ยนไปแล้ว
25. คุณนายสี่ (ภรรยาคนที่ 3 ของเต้)
หญิงอายุประมาณ 40 ปี เป็นภรรยาคนที่ 3 ของจ้าวฉินเย่ว์ เป็นคนจิตใจดี มีความเมตตากรุณา คุณนายสี่มีลูกสาว 2 คน ที่เกิดกับจ้าวฉินเย่ว์ คือเหม่ยอิง และผิงอัน คุณนายสี่เลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองคนเป็นอย่างดี แต่ลูก 2 คนของเธอกลับนิสัยต่างกันราวฟ้ากับดิน ความแตกต่างนี้ทำให้คุณนายสี่กังวลมาก และสุดท้ายคุณนายสี่ก็ต้องพบกับความสูญเสียเมื่อต้องเสียลูกสาวคนโต คือเหม่ยอิงไป จนกลายเป็นคนซึมเศร้า
26. เต๋อเป่า (มือขวาพระเอก)
ชายอายุประมาณ 40 ปี มือขวาของจ้าวซันที่ฮ่องกง จงรักภักดีกับจ้าวซันมาก คอยปกป้องจ้าวซันทุกฝีก้าว เหมือนบอดี้การ์ดส่วนตัวของจ้าวซันที่มีฝีมือระดับแนวหน้า เต๋อเป่าจะคอยสืบเรื่องต่างๆให้จ้าวซันเมื่อเกิดเรื่องไม่ชอบมาพากล ยอมสละชีวิตของตนเพื่อจ้าวซันได้
27. พลตรีสุริยะ ภีมะมนตรี (คนดูแลนางเอก/พ่อบุญธรรม)
ชายอายุประมาณ 50 ปี เป็นคนดูแลบราลี(นางเอก) ต่อจากบาทหลวง พลตรีสุริยะเปรียบเสมือนพ่อบุญธรรมของนางเอกเพราะคอยดูแลมาตั้งแต่เล็ก แต่นิสัยจริงๆ แล้วเขาเป็นเสือผู้หญิง และนักพนันตัวยงตาได้รับความช่วยเหลือด้านการเงินจากจ้าวซัน(พระเอก) จึงกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้ง
28. เกาเฟย (อดีตนักเลง)
ชายอายุประมาณ 35 ปี นักเลงเพื่อนฉินเจียง เป็นอดีตนักเลงที่คอยดูแลบ่อนการพนันของฉินเจียงในมาเก๊า เป็นผู้ที่คอยยุให้ฉินเจียงทำเรื่องผิดๆ และอบายมุขทุกชนิด รวมถึงวางแผนให้ฉินเจียงตกลงและทำสัญญาเงินกู้กับสุริยะเมื่อคราวที่สุริยะมาเล่นพนันที่บ่อนจนหมดตัวจะได้ไว้ใช้ต่อรองกับจ้าวซันในวันข้างหน้า นอกจากนี้ เกาเฟยยังยุให้ฉินเจียงซื้อขายอาวุธกับทหารคีรีรัฐ สุดท้ายเกาเฟยยอมร่วมมือกับเหม่ยอิงค้าอาวุธ เพราะเหม่ยอิงเอาครอบครัวของเกาเฟยมาเป็นเครี่องต่อรอง เหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เกาเฟยถูกจับ แต่เกาเฟยก็หนีออกมาจากคุกได้และกลับไปจับจ้าวซันเป็นตัวประกัน แต่คราวนี้โชคไม่เข้าข้างเกาเฟยถูกตำรวจจับตัวได้ก่อนที่จะยิงจ้าวซัน
29. ซูหลิง (นักร้องคู่ขาจ้าวฉินเจียง)
หญิงสาวอายุประมาณ 28 ปี นักร้องสาว สวย เซ็กซี่ เป็นคู่ขาคนใหม่ของฉินเจียง มีนิสัยเรียบง่าย ไม่ฟุ้งเฟ้อ แต่ที่ต้องมาทำอาชีพนักร้องเพราะครอบครัวจน ฉินเจียงหลงซูหลิงมาก ถึงขนาดคิดจะลองอยู่กินกับซูหลิงเพราะฉินเจียงเริ่มชอบซูหลิงแบบจริงจัง แต่เพราะเป็นนักร้อง เมื่อฉินจียงพาซูหลิงมางานวันเกิดผิงอัน จึงเกิดการทะเลาะกันกับเหม่ยอิง เพราะเหม่ยอิงไม่ยอมรับซูหลิงซึ่งเป็นคนไร้สกุลด้วยความที่ชอบชอบสะสมของเก่าและเคยขายของเก่ามาก่อน ซูหลิงจึงได้เปิดร้านขายของเก่าด้วยเงินทุนของฉินเจียง
30. เทเรซ่า (เลขาพระเอก)
หญิงอายุประมาณ 35 ปี เลขาประจำตัวของจ้าวซัน เป็นเลขาตั้งแต่สมัยจ้าวฉินเย่ว์ยังมีชีวิตอยู่ เป็นเลขาที่รอบรู้ทุกด้าน จ้าวซันจึงไว้ใจเทเรซ่าให้ดูแลบราลีในขณะที่บราลีอยู่ฮ่องกง
31. ผู้กองเหลียง (ตำรวจหน่วยปราบหรามอาชญากรรม)
นายตำรวจหนุ่มอายุประมาณ 35 ปี ตำรวจหน่วยปราบปรามอาชญากรรม เป็นตำรวจตงฉิน มุ่งมั่น รักความยุติธรรม ไม่เกรงกลัวอำนาจมืด มีไหวพริบดี ตลอดมาคิดว่าจ้าวซันทำธุรกิจไม่ดี แต่สุดท้ายก็พบหลักฐานและเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อจ้าวซัน คอยช่วยจ้าวซันสืบหาความจริงว่าใครคือคนร้ายตัวจริง และคอยเตือนจ้าวซันให้ระวังตัวต่อการลอบทำร้าย
32. หลี่ (คนขับรถพระเอก)
ชายอายุประมาณ 40 ปี คนขับรถของจ้าวซัน จงรักภักดีกับจ้าวซันมาก และประสบอุบัติเหตุอาการหนักพร้อมจ้าวซัน ขณะที่จะพาจ้าวซันมาสนามบิน
33. จ่าหมง (ลูกน้องผู้กองเหลียง)
ตำรวจหนุ่มอายุประมาณ 30 ปี ลูกน้องผู้กองเหลียง เป็นตำรวจตรงฉิน ยอมตายในหน้าที่ เป็นผู้ที่หาข้อมูลให้ผู้กองเหลียงในการสืบคดีต่างๆ
34. หมวดจาง (ลูกน้องผู้กองเหลียง)
ผู้หมวดหนุ่มอายุประมาณ 35 ปี ลูกน้องผู้กองเหลียง ถือเป็นมือขวาของผู้กองเหลียง เป็นตำรวจตรงฉิน ยอมตายในหน้าที่ ดุดัน มุทะลุ มักปฏิบัติหน้าที่คู่กับผู้กองเหลียง
35. อเล็กซ์ (ตำรวจหน่วยพิสูจน์หลักฐาน)
ตำรวจหนุ่มอายุประมาณ 35 ปี ตำรวจจากหน่วยพิสูจน์หลักฐาน ฝีมือดี ถูกดึงตัวเข้ามาให้ร่วมมือสืบคดีในทีมของผู้กองเหลียง
36. อาม่า (คนรับใช้บ้านเต้)
หญิงแก่อายุประมาณ 60 ปี คนรับใช้เก่าแก่บ้านจ้าวฉินเย่ว์ จงรักภักดีกับตระกูลเต้มาก คอยดูแลผิงอัน และบราลี อาม่ารักและเป็นห่วงผิงอันมากเพราะผูกพันและเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็ก
37. อากง (คนรับใช้บ้านเต้)
ชายแก่อายุประมาณ 60 ปี คนดูแลบ้านเก่าแก่ของจ้าวฉินเย่ว์ รู้เรื่องราวภายในบ้านดี แต่มีนิสัยเงียบขรึม คอยสังเกตุทุกคนในบ้าน แต่มักไม่ออกความคิดเห็น อากงเป็นคนบอกจ้าวซันว่าจ้าวไทไทรู้อะไรดีดีมากกว่าทุกคน
38. หลินจื้อเหม่ย (เพื่อนนางเอก)
หญิงสาวอายุประมาณ 23-25 ปี เพื่อนสนิทของบราลี ร่าเริงแจ่มใส เป็นคนฮ่องกง รู้ใจบราลีทุกเรื่อง เมื่อบราลีมีปัญหาก็ได้หลินจื้อเหม่ยคอยให้คำปรึกษา
39. โกศิณ (ตัวแทนราชิด)
ชายอายุประมาณ 40 ปี ตัวแทนของพลเอกราชิดในการเจรจาเรื่องอาวุธ รู้เท่าทันและอ่านเกมส์ในการซื้อขายออกเป็นอย่างดี มีนิสัยเห็นแก่ตัว ยอมหักหลังคนอื่นได้เพื่อรักษาชีวิตตนเอง เป็นคนกลัวความผิด เมื่อจะโดนจับโกศิณจึงยอมมอบตัวและเล่าความจริงทุกอย่าง
40. พันหงปิง (พ่อค้าอาวุธเถื่อน)
ชายอายุประมาณ 40 ปี พ่อค้าอาวุธเถื่อน เป็นผู้ร่วมมือกับเกาเฟยในการค้าอาวุธ แต่สุดท้ายถูกจับ ส่วนอาวุธของตนก็ถูกเกาเฟยขโมยไป
41. ไอ้สือ (ลูกน้องเกาเฟย)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 35 ปี ลูกน้องคนสนิทของเกาเฟย อยู่แบบหลบๆซ่อนๆกับเมียท้องแก่ รักเกาเฟยมาก เพราะเคยร่วมสุขทุกข์กันมา ยอมสละเงินที่มีเพื่อให้เกาเฟยหนีไป
42. คุณนายหวัง (แม่ของเพื่อนเหม่ยอิง)
หญิงอายุประมาณ 40 ปี แม่ของเพื่อนเหม่ยอิง
43. เจิ้นจง (คนขับรถส่งของ)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 25 ปี คนขับรถขนเสื้อสำเร็จรูปของบริษัทจ้าวซันที่หายตัวไปจากการถูกปล้น
44. เสี่ยวจู (เพื่อนเจิ้นจง)
ชายหนุ่มอายุประมาณ 25 ปี เพื่อนสนิทของเจิ้นจง ทำงานที่โรงฝิ่น แต่ถูกฆ่าตายอย่างปริศนา