น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัว หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ กล่าวถึงความคืบหน้าอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ หลังจากได้ทำการตรวจอาการอาพาธ พร้อมด้วยคณะแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคปอด ด้านการติดเชื้อ ด้านหลอดลม และด้านแผนไทยพบว่า เสมหะเกือบลดลงจนเกือบเป็นปกติ ไข้ไม่มี สามารถรับรู้เรื่องราวต่างๆได้ดี สามารถจดจำลูกศิษย์ และพูดคุยกับคณะแพทย์ที่ทำการตรวจได้ดีเช่นกัน แต่ยังคงมีอาการอ่อนเพลียแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ซึ่งเป็นผลพวงจากการที่ต้องดูดเสมหะออก แต่สภาพโดยรวมถือว่า อาการอาพาธของหลวงพ่อคูณดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การให้ยาปฏิชีวนะผ่านทางหลอดเลือดดำจะครบกำหนด 10 วัน ในวันพรุ่งนี้คณะแพทย์จะทำการประเมินสภาพอาการของหลวงพ่อคูณอีกครั้งหนึ่ง อีกทั้งจะต้องมีการประเมินแนวทางในการรักษาเช่นด้วยกันว่า จะให้ยาปฏิชีวนะครบ 14 วันหรือไม่ หรือจะมีการปรับเปลี่ยนจากการฉีดยาเข้าหลอดเลือดดำมาเป็นการับยาแบบฉันแทน
น.พ.พินิศจัย กล่าวต่อไปว่า คณะแพทย์ยังคงให้เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ทำกายภาพบำบัดแก่หลวงพ่อคูณ โดยยกแขน ยกขา ขยับเขยื้อนขึ้นลง อีกทั้งได้ให้หลวงพ่อคูณปั่นจักรยานไฟฟ้า เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้ข้อกระดูกติดยึด ไม่มีการยืดตัว ขณะที่คณะแพทย์ได้กำชับให้ลูกศิษย์ที่ดูแลหลวงพ่อคูณ หมั่นหมุนเวียนเข้าไปพูดคุยกับหลวงพ่อคูณอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังให้ลูกศิษย์ได้นำเพลงโคราชที่หลวงพ่อคูณชอบมาเปิดให้ฟัง เพื่อเป็นการคลายเครียดให้กับหลวงพ่อคูณ หลังจากที่ต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน อีกทั้งหลวงพ่อคูณเริ่มมีการบ่นกับคณะแพทย์ว่า อยากกลับวัดบ้านไร่
ส่วนการนำหลวงพ่อคูณออดกมานอกห้อง เพื่อพบญาติโยมนั้นคิดว่า ช่วงในมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสภาพอากาศมีความชื้น ดังนั้นหากพาหลวงพ่อคูณออกมานอกห้องอาจจะส่งผลเสียกับอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ดังนั้นจึงคิดว่า การที่จะพาหลวงพ่อคูณออกมานั้น จะต้องดูสภาพอากาศที่สมควร แต่คณะแพทย์ยังคงงดเยี่ยมหลวงพ่อคูณโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันภาวะต่างๆ ที่ตามมา
น.พ.พินิศจัย กล่าวต่อไปว่า คณะแพทย์ยังคงให้เจ้าหน้าที่กายภาพบำบัดโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ทำกายภาพบำบัดแก่หลวงพ่อคูณ โดยยกแขน ยกขา ขยับเขยื้อนขึ้นลง อีกทั้งได้ให้หลวงพ่อคูณปั่นจักรยานไฟฟ้า เพื่อสร้างกล้ามเนื้อ ไม่ให้ข้อกระดูกติดยึด ไม่มีการยืดตัว ขณะที่คณะแพทย์ได้กำชับให้ลูกศิษย์ที่ดูแลหลวงพ่อคูณ หมั่นหมุนเวียนเข้าไปพูดคุยกับหลวงพ่อคูณอยู่ตลอดเวลา อีกทั้งยังให้ลูกศิษย์ได้นำเพลงโคราชที่หลวงพ่อคูณชอบมาเปิดให้ฟัง เพื่อเป็นการคลายเครียดให้กับหลวงพ่อคูณ หลังจากที่ต้องมานอนรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลานาน อีกทั้งหลวงพ่อคูณเริ่มมีการบ่นกับคณะแพทย์ว่า อยากกลับวัดบ้านไร่
ส่วนการนำหลวงพ่อคูณออดกมานอกห้อง เพื่อพบญาติโยมนั้นคิดว่า ช่วงในมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งสภาพอากาศมีความชื้น ดังนั้นหากพาหลวงพ่อคูณออกมานอกห้องอาจจะส่งผลเสียกับอาการอาพาธของหลวงพ่อคูณ ดังนั้นจึงคิดว่า การที่จะพาหลวงพ่อคูณออกมานั้น จะต้องดูสภาพอากาศที่สมควร แต่คณะแพทย์ยังคงงดเยี่ยมหลวงพ่อคูณโดยเด็ดขาด เพื่อป้องกันภาวะต่างๆ ที่ตามมา