ความคืบหน้าอาการอาพาธของ พระเทพวิทยาคม หรือหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ล่าสุด น.พ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ พร้อมด้วย น.พ.อนุชิต นิยมปัทมะ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรกรรมโรคปอด โรงพยาบาลมหาราช และ น.พ.ธนากร อนันตเศรษฐกุล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจ ได้ตรวจร่างกายหลวงพ่อคูณใช้เวลาตรวจ 20 นาที
น.พ.พินิจจัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้ทำการพ่นยาขยายหลอดลม ให้ฉันยาละลายเสมหะ ดูดเสลดเสมหะ และล้างกระเพาะปัสสาวะ อาการโดยรวมตื่นตัวขึ้นมาก ไข้ไม่มีเสมหะลดลงมากแล้ว แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ สำหรับเสมหะโดยพื้นฐานของท่านก็มีอยู่แล้ว ที่ต้องดูดวันละ 2 ครั้ง แต่เมื่อช่วง 2-3 วันต้องดูด 3 ครั้งต่อวัน เพราะสภาวะปอดอักเสบ ทำให้เสมหะเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งหลังจากให้ยาปฏิชีวนะทำให้เสมหะลดลงมาจนเกือบจะใกล้ปกติแล้ว โดยการให้ยาปฏิชีวนะเป็นยาตัวเดิมตัวยาสามารถคลอบคลุมเชื้อได้ค่อนข้างกว้าง เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรียในโรงพยาบาลเอง ซึ่งเชื้อตัวนี้ค่อนข้างจะดื้อยาด้วย ฉะนั้นเราต้องเฝ้าระวังเรื่องไข้กลับมา เฝ้าระวังภาวะปอดอักเสบ และน้ำในช่องปอด และระบบอื่นๆ ด้วย ส่วนน้ำเกลือที่ให้ควบคู่กับยาปฏิชีวนะตอนนี้ได้หยุดแล้ว เหลือแต่ฉีดยาเข้าหลอดเดือดดำโดยตรง และยาฉันสำหรับฆ่าเชื้อไวรัสพรุ่งนี้ (10มิ.ย.) จะหยุดยาแล้ว ประคับประคองในการรักษา ส่วนการทำกายภาพบำบัดทำอยู่บนเตียง ยกแขน ยกขา บีบนวดตัว แต่เมื่อวานนี้ลูกศิษย์พาท่านลุกมานั่งเก้าอี้ด้านล่างข้างเตียงได้ พูดคุยได้ ดูสดชื่น ท่านบ่นกลับวัดบ้านไร่แล้ว
น.พ.พินิศจัย กล่าวว่า เรื่องนิมนต์กลับวัดบ้านไร่ช่วงนี้คงยังไม่มีการพูดคุยกัน อาจจะประมาณปลายเดือนนี้ค่อยดูอีกที หลังจากให้ยาปฏิชีวนะครบก่อน จากนั้นจะประเมินผลการสังเกตอาการ ช่วงนี้ให้ท่านพักผ่อนมากหน่อย งดเยี่ยม งดรับกิจนิมนต์ รวมถึงงดกิจนิมนต์พบญาติโยมด้วย
น.พ.พินิจจัย กล่าวว่า เมื่อช่วงเช้าได้ทำการพ่นยาขยายหลอดลม ให้ฉันยาละลายเสมหะ ดูดเสลดเสมหะ และล้างกระเพาะปัสสาวะ อาการโดยรวมตื่นตัวขึ้นมาก ไข้ไม่มีเสมหะลดลงมากแล้ว แต่ยังมีอาการอ่อนเพลียอยู่ สำหรับเสมหะโดยพื้นฐานของท่านก็มีอยู่แล้ว ที่ต้องดูดวันละ 2 ครั้ง แต่เมื่อช่วง 2-3 วันต้องดูด 3 ครั้งต่อวัน เพราะสภาวะปอดอักเสบ ทำให้เสมหะเพิ่มมากขึ้นกว่าปกติ ซึ่งหลังจากให้ยาปฏิชีวนะทำให้เสมหะลดลงมาจนเกือบจะใกล้ปกติแล้ว โดยการให้ยาปฏิชีวนะเป็นยาตัวเดิมตัวยาสามารถคลอบคลุมเชื้อได้ค่อนข้างกว้าง เนื่องจากเป็นเชื้อแบคทีเรียในโรงพยาบาลเอง ซึ่งเชื้อตัวนี้ค่อนข้างจะดื้อยาด้วย ฉะนั้นเราต้องเฝ้าระวังเรื่องไข้กลับมา เฝ้าระวังภาวะปอดอักเสบ และน้ำในช่องปอด และระบบอื่นๆ ด้วย ส่วนน้ำเกลือที่ให้ควบคู่กับยาปฏิชีวนะตอนนี้ได้หยุดแล้ว เหลือแต่ฉีดยาเข้าหลอดเดือดดำโดยตรง และยาฉันสำหรับฆ่าเชื้อไวรัสพรุ่งนี้ (10มิ.ย.) จะหยุดยาแล้ว ประคับประคองในการรักษา ส่วนการทำกายภาพบำบัดทำอยู่บนเตียง ยกแขน ยกขา บีบนวดตัว แต่เมื่อวานนี้ลูกศิษย์พาท่านลุกมานั่งเก้าอี้ด้านล่างข้างเตียงได้ พูดคุยได้ ดูสดชื่น ท่านบ่นกลับวัดบ้านไร่แล้ว
น.พ.พินิศจัย กล่าวว่า เรื่องนิมนต์กลับวัดบ้านไร่ช่วงนี้คงยังไม่มีการพูดคุยกัน อาจจะประมาณปลายเดือนนี้ค่อยดูอีกที หลังจากให้ยาปฏิชีวนะครบก่อน จากนั้นจะประเมินผลการสังเกตอาการ ช่วงนี้ให้ท่านพักผ่อนมากหน่อย งดเยี่ยม งดรับกิจนิมนต์ รวมถึงงดกิจนิมนต์พบญาติโยมด้วย
