“พ่อคูณ” ดีขึ้นไม่มีไข้ แพทย์เฝ้าระวังใกล้ชิดหวั่นวัณโรคปอดกลับมาอีก

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - แพทย์ระบุ “หลวงพ่อคูณ” ดีขึ้น ไม่มีไข้มา 2 วันแล้ว เสลดเสมหะลดลง นอนออกกำลังกายยกแขนขาบนเตียงเองได้ ต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิดหวั่นวัณโรคปอดกลับมาอีก

วันนี้ (8 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าอาการอาพาธของพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ) เจ้าอาวาสวัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา ที่พักรักษาอยู่ที่ห้องผู้ป่วยพิเศษ 9821 ชั้น 8 อาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา อ.เมือง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค. เป็นต้นมา ด้วยอาการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะ หลอดลมอักเสบ และ เมื่อวันที่ 6 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เกิดภาวะปอดอักเสบจากการติดเชื้อซ้ำซ้อนอีกนั้น

ล่าสุด ทางโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ออกประกาศ เรื่อง อาการอาพาธพระเทพวิทยาคม (หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ ) ฉบับที่ 12 ระบุว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 6 มิ.ย. พระเทพวิทยาคม เริ่มมีไข้และเสมหะมากขึ้น คณะแพทย์ได้ตรวจวินิจฉัย และเอกซเรย์ปอด พบว่า พระเทพวิทยาคม มีภาวะปอดอักเสบ สาเหตุน่าจะเป็นจากการติดเชื้อแบคทีเรีย หรือไวรัส คณะแพทย์ให้การรักษาโดยให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดดำ และให้ยาต้านไวรัสในรูปยาฉัน

คณะแพทย์โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา ได้ตรวจร่างกาย พระเทพวิทยาคม สรุปได้ดังนี้ อาการโดยรวมไม่มีไข้ ยังรู้ตัวรู้เรื่อง มีอาการอ่อนเพลีย และเสมหะค่อนข้างมาก คณะแพทย์ยังคงให้การรักษาแนวทางเดิม โดยเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนในระบบต่างๆอย่างใกล้ชิด และงดเยี่ยมอาการอาพาธ เพื่อให้พระเทพวิทยาคม ได้พักผ่อน จึงประกาศมาเพื่อทราบโดยทั่วกัน

ด้าน นพ.พินิศจัย นาคพันธุ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจและหลอดเลือด โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แพทย์ประจำตัวหลวงพ่อคูณ เปิดเผยว่า จากการติดตามอาการจนถึงวันนี้ หลวงพ่อดีขึ้นตามลำดับ โดยสามารถนอนยกแขนขาบนเตียงเองได้ รู้ตัว รู้เรื่อง รับอาหารผ่านทางสายยางได้ดี ไม่มีไข้มาเป็นวันที่ 2 และเสลดเสมหะลดลง อีก 2-3 วัน จะเอกซเรย์เพื่อดูสภาพปอดอีกครั้ง

ขณะนี้ยังต้องเฝ้าระวังภาวะแทรกซ้อนอย่างใกล้ชิดต่อไป และการรักษาต้องทำแบบประคับประคอง ซึ่งการติดเชื้อที่ปอดครั้งนี้จะต้องเฝ้าระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากปอดของท่านบอบช้ำ และยุบไปบางส่วนที่บริเวณปอดด้านบนทั้ง 2 ข้างจากวัณโรคปอดที่เคยเป็นก่อนหน้านี้ และหากมีภาวะแทรกซ้อนอื่นๆ เกิดขึ้น วัณโรคปอดก็สามารถกลับมาเป็นได้อีก ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ได้ติดตามอาการอย่างใกล้ชิด

“โดยทุกครั้งที่ท่านติดเชื้อคณะแพทย์เป็นกังวลอย่างมาก เนื่องจากการกลับมาฟื้นตัว หรือมีภูมิต้านทานได้เหมือนเดิมอีกครั้งของหลวงพ่อต้องใช้เวลานานร่วม 3 เดือน จากปกติคนทั่วไปใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์เท่านั้น ฉะนั้น การติดเชื้อแต่ละครั้งจึงน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง” นพ.พินิศจัย กล่าว