นางวรีมน นิยมไทย ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาลูกค้าธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งปีหลัง ธนาคารยังให้ความสำคัญกับความผันผวนของค่าเงินที่นับเป็นความเสี่ยง ในการทำธุรกิจของลูกค้าที่ทำธุรกิจนำเข้าและส่งออก ดังนั้นธนาคารจะยังให้การช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากค่าเงินที่ผันผวน แม้ว่าลูกค้ากลุ่มนี้จะมีขนาดไม่ใหญ่มาก เมื่อเทียบกับสัดส่วนลูกค้าธุรกิจ แต่มีความสำคัญ ทำให้ธุรกิจของประเทศเติบโตได้ดี ซึ่งปัจจุบันธนาคารมีสินเชื่อกลุ่มนำเข้าส่งออกประมาณร้อยละ 10 ของสินเชื่อเอสเอ็มอีทั้งหมด ที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคาดว่าในปีนี้กลุ่มลูกค้าธุรกิจรวมจะขยายตัวได้ร้อยละ 20 โดยมียอดสินเชื่อใหม่ 57,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ธนาคารยังดูแลลูกค้าด้วยการให้สินเชื่อวงเงินสูงสุด 120 ล้านบาท ไม่จำกัดประเภทของหลักประกัน สำหรับธุรกิจนำเข้าส่งออกที่กำลังเติบโตนั้น ทางธนาคารได้ให้สินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพวงเงินสูงสุด 300 ล้านบาท และให้การวงเงินช่วยเหลือลูกค้าบริการในการทำสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า สำหรับเอสเอ็มอีวงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท ทุกสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน
นอกจากนี้ ธนาคารยังดูแลลูกค้าด้วยการให้สินเชื่อวงเงินสูงสุด 120 ล้านบาท ไม่จำกัดประเภทของหลักประกัน สำหรับธุรกิจนำเข้าส่งออกที่กำลังเติบโตนั้น ทางธนาคารได้ให้สินเชื่อสนับสนุนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่มีศักยภาพวงเงินสูงสุด 300 ล้านบาท และให้การวงเงินช่วยเหลือลูกค้าบริการในการทำสัญญาอัตราแลกเปลี่ยนล่วงหน้า สำหรับเอสเอ็มอีวงเงินสูงสุด 100 ล้านบาท ทุกสกุลเงินตราต่างประเทศ โดยไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน