พล.ร.ต.รังสรรค์ โตอรุณ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงสืบทราบว่า จะมีการลักลอบขนไม้พะยูงส่งขายต่างประเทศผ่านลงเรือท้ายหมู่บ้าน บ้านท่าส้มโฮง หมู่ที่ 4 ต.โคกกว้าง อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ จึงสั่งการให้ น.อ.ดุสิต จันทร์ราช ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตหนองคายกับ ร.อ.คำพัน พวงไธสง หัวหน้าสถานีเรือบึงกาฬ สนธิกำลังกับ พ.ต.อ.บพิธ พิมายนอก ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบุ่งคล้า พ.ต.อ.สุทธิโรจน์ นพโพธิ์พงศ์ ผู้กำกับการ 3 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ต.ท.สุชาติ บุปปาจันโท ผบ.ร้อย ตชด.244 บึงกาฬ กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี นายวัลลภ วุฒาพาณิชย์ นายด่านศุลกากรบึงกาฬ นายสว่าง เฟื่องกระแสร์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 นายสา แสงสว่าง ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมบึงกาฬ และนายทรัพย์สิน จงดี หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นค.4 (เซกา) วางแผนจับกุม เวลาดังกล่าวขณะที่เจ้าหน้าที่ได้ดักซุ่มอยู่ริมน้ำโขงท้ายหมู่บ้านท่าส้มโฮง ได้พบรถยนต์บรรทุกเล็กไม่ทราบสียี่ห้อและทะเบียนวิ่งเข้ามาจอดอยู่ริมน้ำโขง จากนั้นได้ยกดั๊มพ์เทไม้พะยูงลงพื้นดินก่อนจะวิ่งหนีออกไปทางเดิมอย่างรวดเร็ว
จากนั้นมีชายฉกรรจ์ประมาณ 15 คน เดินออกจากที่หลบซ่อนมาขนได้พะยูงลงเรือที่จอดรออยู่อีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายจำนวนดังกล่าวได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ เข้าตรวจสอบพื้นที่พบไม้พะยูงกองอยู่ที่พื้นดิน 37 ท่อน และอยู่ในลำเรือ 15 ท่อน รวมไม้พะยูง 52 ท่อน ปริมาตร 1.735 ลูกบาศก์เมตรราคาขายต่างประเทศประมาณ 5 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมเครื่องยนต์เรือยี่ห้อฮอนด้าขนาด 13 แรงม้า 1 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.บุ่งคล้าดำเนินคดีต่อไป
จากนั้นมีชายฉกรรจ์ประมาณ 15 คน เดินออกจากที่หลบซ่อนมาขนได้พะยูงลงเรือที่จอดรออยู่อีกทอดหนึ่ง เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่ชายจำนวนดังกล่าวได้อาศัยความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้ เข้าตรวจสอบพื้นที่พบไม้พะยูงกองอยู่ที่พื้นดิน 37 ท่อน และอยู่ในลำเรือ 15 ท่อน รวมไม้พะยูง 52 ท่อน ปริมาตร 1.735 ลูกบาศก์เมตรราคาขายต่างประเทศประมาณ 5 ล้านบาท จึงยึดไว้เป็นของกลางพร้อมเครื่องยนต์เรือยี่ห้อฮอนด้าขนาด 13 แรงม้า 1 เครื่อง นำส่งพนักงานสอบสวนเวร สภ.บุ่งคล้าดำเนินคดีต่อไป