ร.อ.เดโชพล ป้องจันทร์ หัวหน้าสถานีเรือหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) อำเภอบ้านแพง จ.นครพนม ประสานงานร่วมกับ นายสว่าง เฟื่องกระแส ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 10 อุดรธานี พร้อมด้วย นายณัฐยศ ชัยชนะทรัพย์ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติภูลังกา ระดมกำลังสนธิกำลังเจ้าหน้าที่ วางแผนสกัดกั้นปราบปรามการลักลอบขนไม้พะยูงในพื้นที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม เชื่อมต่อ พื้นที่ อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ภายหลังสืบทราบจะมีการลักลอบขนส่งไม้พะยูงหวงห้าม ข้ามแม่น้ำโขงไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน จนกระทั่งสามารถเข้าตรวจยึดไม้พะยูงหวงห้ามได้ทั้งหมด จำนวน 145 ท่อน ขนาดความยาวประมาณ 52 -3 เมตร
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นไม้เก่า โดยมีการซุกซ่อนไว้บริเวณป่า ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตบ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ ยึดเป็นของกลาง แต่ไม่มีใครแสดงเป็นเจ้าของ
ร.อ.เดโชพล เชื่อว่า ไม้พะยูงดังกล่าว มีการลักลอบลำเลียงขนส่งมาพักไว้ เพื่อรอการขนส่งลงเรือข้ามไปขายยังประเทศจีน ซึ่งจากการประสานงานกับเจ้าหน้าที่อุทยานภูลังกา ทราบว่า ปัจจุบันได้มีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันปราบปราม และกำหนดพิกัดต้นไม้พะยูงภายในพื้นที่อุทยาน และจัดชุดลาดตระเวนต่อเนื่อง ทำให้ขบวนการค้าไม้พะยูงลักลอบตัดยาก ส่งผลให้ตลาดไม้พะยูงเก่าคึกคัก หันมาลักลอบค้าไม้พะยูงเก่าแทน โดยจะมีการซื้อขายกันด้วยการชั่งกิโล ประมาณกิโลกรัมละ 1,000-1,500 บาท ทำให้มีราคาแพงขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า เป็นไม้เก่า โดยมีการซุกซ่อนไว้บริเวณป่า ริมฝั่งแม่น้ำโขง เขตบ้านดงบัง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบ ยึดเป็นของกลาง แต่ไม่มีใครแสดงเป็นเจ้าของ
ร.อ.เดโชพล เชื่อว่า ไม้พะยูงดังกล่าว มีการลักลอบลำเลียงขนส่งมาพักไว้ เพื่อรอการขนส่งลงเรือข้ามไปขายยังประเทศจีน ซึ่งจากการประสานงานกับเจ้าหน้าที่อุทยานภูลังกา ทราบว่า ปัจจุบันได้มีการเพิ่มมาตรการในการป้องกันปราบปราม และกำหนดพิกัดต้นไม้พะยูงภายในพื้นที่อุทยาน และจัดชุดลาดตระเวนต่อเนื่อง ทำให้ขบวนการค้าไม้พะยูงลักลอบตัดยาก ส่งผลให้ตลาดไม้พะยูงเก่าคึกคัก หันมาลักลอบค้าไม้พะยูงเก่าแทน โดยจะมีการซื้อขายกันด้วยการชั่งกิโล ประมาณกิโลกรัมละ 1,000-1,500 บาท ทำให้มีราคาแพงขึ้น
