นายชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากผลสำรวจกลุ่มเยาวชน อายุ 15-29 ปี ล่าสุดในปี 2552 พบว่ามีพฤติกรรมาน่าห่วงอย่างมากใน 4 เรื่อง คือ พฤติกรรมใช้ยาไม่ถูกต้อง พบร้อยละ 5 ของวัยรุ่น ที่การกินยาลดความอ้วน และเกือบร้อยละ 2 มีการกินยานอนหลับเป็นประจำ พฤติกรรมการใช้สารเสพติด พบวัยรุ่นชายเริ่มสูบบุหรี่ และดื่มเหล้าเมื่ออายุเฉลี่ย 16.2 ปี ส่วนวัยรุ่นหญิง เริ่มสูบบุหรี่อายุเฉลี่ย 16.7 ปี เริ่มดื่มเหล้าอายุเฉลี่ย 17.8 ปี ซึ่ง 2 เรื่องนี้นำไปสู่สิ่งเสพติดอื่นๆ หรือพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศง่ายขึ้น พฤติกรรมการกินอาหาร พบวัยรุ่นไม่กินอาหารเช้า มากถึงร้อยละ 65 กินอาหารไม่ครบ 3 มื้อ มากถึงร้อยละ 72 แต่ชอบกินอาหารจุบจิบ ซึ่งทำให้วัยรุ่นมีพฤติกรรมเสี่ยงอ้วนมากขึ้น
โดยในปี 2551 พบนักเรียนระดับมัธยม เป็นโรคอ้วนแล้ว 1.4 ล้านคน อีกร้อยละ 10 มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เมื่อเด็กกลุ่มนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด สูงกว่าเด็กปกติ และปัญหาที่น่าห่วงเรื่องสุดท้าย คือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ที่พบอัตราวัยรุ่นประสบอุบัติเหตุ 1 ใน 10 เพื่อแก้ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องเร่งปลูกฝังความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องแก่เยาวชนไทย
ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายเร่งสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ โดยพัฒนาให้เป็น ยุว อสม. ในโรงเรียน ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพขั้นต้นในโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ และจะพัฒนาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตามความสนใจของเยาวชน เช่น การป้องกันยาเสพติด การเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหาร หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตต่อไป มั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาในเยาวชนและป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต เนื่องจากเยาวชนส่วนใหญ่ หากมีปัญหามักจะปรึกษาเพื่อนมากกว่าผู้ปกครอง และโครงการ ยุว อสม.นี้ จะช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของไทย เช่น เบาหวาน ให้บรรลุผลสำเร็จง่ายขึ้น
โดยในปี 2551 พบนักเรียนระดับมัธยม เป็นโรคอ้วนแล้ว 1.4 ล้านคน อีกร้อยละ 10 มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน เมื่อเด็กกลุ่มนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่ จะมีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจและหลอดเลือด สูงกว่าเด็กปกติ และปัญหาที่น่าห่วงเรื่องสุดท้าย คือการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจราจร ที่พบอัตราวัยรุ่นประสบอุบัติเหตุ 1 ใน 10 เพื่อแก้ปัญหานี้จึงจำเป็นต้องเร่งปลูกฝังความรู้เรื่องการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้องแก่เยาวชนไทย
ในปีนี้ กระทรวงสาธารณสุขจึงมีนโยบายเร่งสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ โดยพัฒนาให้เป็น ยุว อสม. ในโรงเรียน ทำหน้าที่ดูแลสุขภาพขั้นต้นในโรงเรียนทั้งรัฐและเอกชนทั่วประเทศ และจะพัฒนาให้เป็นผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ตามความสนใจของเยาวชน เช่น การป้องกันยาเสพติด การเฝ้าระวังความปลอดภัยอาหาร หรือ ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตต่อไป มั่นใจว่าจะช่วยแก้ปัญหาในเยาวชนและป้องกันปัญหาสุขภาพในอนาคต เนื่องจากเยาวชนส่วนใหญ่ หากมีปัญหามักจะปรึกษาเพื่อนมากกว่าผู้ปกครอง และโครงการ ยุว อสม.นี้ จะช่วยป้องกันโรคไม่ติดต่อเรื้อรังของไทย เช่น เบาหวาน ให้บรรลุผลสำเร็จง่ายขึ้น