นางศรีรัตน์ รัษฐปานะ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า หลังจากที่ทางกระทรวงพาณิชย์ได้ปรับเป้าหมายการส่งออกลดเหลือ 7-7.5 เปอร์เซ็นต์ จากที่ก่อนหน้านี้ตั้งไว้ 8-9 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากเศรษฐกิจในหลายประเทศยังชะลอตัว รวมถึงค่าเงินบาทที่แข็งค่าขึ้น จึงทำให้ต้องมีการเพิ่มกลยุทธ์การเจาะตลาดส่งออกใหม่ๆ รวมถึงหาช่องทางสินค้าที่ยังมีโอกาสขยายตลาด และปรับสินค้าให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มลูกค้าในแต่ละประเทศ เช่น ในญี่ปุ่นต้องเพิ่มช่องทางสินค้าออนไลน์ ขยายกลุ่มตลาดสินค้าผู้สูงอายุ และสินค้าวัสดุธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ยอมรับว่า ตลาดส่งออกที่น่าเป็นห่วง คือ ตลาดในสหภาพยุโรป แต่ว่าไทยยังต้องรักษาตลาดแห่งนี้ เนื่องจากระยะยาวยังมีความต้องการสินค้าไทย และยังมีโอกาสในการขยายตลาด ซึ่งต้องเร่งสร้างพันธมิตรทางการค้า โดยเฉพาะในกลุ่มของเอสเอ็มอี ซึ่งกระทรวงพาณิชย์จะช่วยหาพันธมิตรธุรกิจอีกทางหนึ่ง ซึ่งในต้นเดือนหน้าจะเรียกประชุมผู้ส่งออกเป็นรายกลุ่มสินค้าเพื่อหารือถึงมาตรการในการกระตุ้นตลาดรายสาขา รวมถึงมาตรการในการช่วยเหลืออีกด้วย