นายธัชพล กาญจนกูล รองผู้อำนวยการธนาคารออมสินอาวุโส เปิดเผยว่า ไตรมาสแรกปี 2556 (ม.ค.-มี.ค.) ผลประกอบการของออมสินอยู่ในระดับที่ดีมาก มีกำไร 5,000 ล้านบาท หากรวมเดือนเมษายน กำไรอยู่ที่ 5,800 ล้านบาท คาดว่าทั้งปีจะมีกำไร 2.1 หมื่นล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ส่วนสินทรัพย์ของธนาคารล่าสุดอยู่ที่ 2.1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.5 แสนล้านบาท ด้านหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) อยู่ที่ 1.3% ต่ำที่สุดในตลาด และปีนี้ตั้งเป้าลดให้เหลือ 1.1%
สำหรับเงินฝากล่าสุดเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้ว โดยเพิ่มขึ้น 1.4 แสนล้านบาท ส่งผลมีเงินฝากรวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2555 ที่อยู่ระดับ 1.67 ล้านล้านบาท เงินฝากที่เพิ่มขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัวคือ ผลิตภัณฑ์เงินฝาก 101 วัน ดอกเบี้ย 3% ฉลองครบรอบ 100 ปี หมดเขตรับฝากเงินไปเมื่อ 30 เมษายน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก มีเงินไหลเข้ามาฝากถึง 7 หมื่นล้านบาท เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษมีเงินไหลเข้ามา 1.8 หมื่นล้านบาท และสลากออมสิน 100 ปี อีก 1.8 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 2-31 พฤษภาคม ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก 9 เดือน ดอกเบี้ย 3% เพื่อรองรับลูกค้าที่ไม่ทันเงินฝาก 101 วัน
ทั้งนี้ ออมสินเตรียมระดมเงินฝากเพื่อปล่อยกู้ให้กับภาครัฐทั้งปล่อยกู้ใน พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำ และพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยล่าสุดออมสินปล่อยกู้ใน พ.ร.ก.น้ำไปแล้วกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท และปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวไปแล้ว 1 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมปล่อยกู้ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท อีกไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท โดยในปี 2556 นี้ ตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ให้กับภาครัฐ 7 หมื่นล้านบาท รวมเป็นยอดปล่อยกู้ภาครัฐ 3.5 แสนล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท
ส่วนในด้านสินเชื่อล่าสุดอยู่ที่ 1.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา 4 หมื่นล้านบาท สินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่มากเพราะในปีนี้ออมสินเปลี่ยนนโยบายการปล่อยกู้ใหม่ เน้นปล่อยกู้ภาครัฐ และรายย่อยให้มากขึ้น โดยจะชะลอการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจรายใหญ่เนื่องจากมีธนาคารพาณิชย์ให้บริการอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ออมสินพยายามลดต้นทุนทางการเงิน ขณะนี้อยู่ที่ 2.6% จากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 2.8% วิธีการลดต้นทุน อาทิ ลดเงินฝากรายใหญ่ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ ลง และหันมารับฝากเงินจากรายย่อยที่ดอกเบี้ยถูกกว่าแทน ล่าสุดสัดส่วนเงินฝากรายใหญ่เหลือเพียง 12% จากปลายปีอยู่ที่ 15% ส่วนเงินฝากรายย่อยเพิ่มเป็น 40% จากเดิมอยู่ที่ 30% พร้อมทั้งปรับแผนลงทุนตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นให้เพิ่มขึ้น เพราะช่วงนี้สร้างผลตอบแทนถึง 35%
สำหรับเงินฝากล่าสุดเพิ่มขึ้นมากกว่าเป้าหมายทั้งปีแล้ว โดยเพิ่มขึ้น 1.4 แสนล้านบาท ส่งผลมีเงินฝากรวมอยู่ที่ 1.8 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงปลายปี 2555 ที่อยู่ระดับ 1.67 ล้านล้านบาท เงินฝากที่เพิ่มขึ้นมาจากผลิตภัณฑ์หลัก 3 ตัวคือ ผลิตภัณฑ์เงินฝาก 101 วัน ดอกเบี้ย 3% ฉลองครบรอบ 100 ปี หมดเขตรับฝากเงินไปเมื่อ 30 เมษายน ซึ่งลูกค้าให้การตอบรับที่ดีมาก มีเงินไหลเข้ามาฝากถึง 7 หมื่นล้านบาท เงินฝากเผื่อเรียกพิเศษมีเงินไหลเข้ามา 1.8 หมื่นล้านบาท และสลากออมสิน 100 ปี อีก 1.8 หมื่นล้านบาท โดยในวันที่ 2-31 พฤษภาคม ออกผลิตภัณฑ์เงินฝาก 9 เดือน ดอกเบี้ย 3% เพื่อรองรับลูกค้าที่ไม่ทันเงินฝาก 101 วัน
ทั้งนี้ ออมสินเตรียมระดมเงินฝากเพื่อปล่อยกู้ให้กับภาครัฐทั้งปล่อยกู้ใน พ.ร.ก.กู้เงินบริหารจัดการน้ำ และพ.ร.บ.กู้เงินเพื่อโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท โดยล่าสุดออมสินปล่อยกู้ใน พ.ร.ก.น้ำไปแล้วกว่า 4-5 หมื่นล้านบาท และปล่อยกู้ในโครงการรับจำนำข้าวไปแล้ว 1 แสนล้านบาท พร้อมทั้งเตรียมปล่อยกู้ พ.ร.บ. 2 ล้านล้านบาท อีกไม่น้อยกว่า 5 แสนล้านบาท โดยในปี 2556 นี้ ตั้งเป้าหมายปล่อยกู้ให้กับภาครัฐ 7 หมื่นล้านบาท รวมเป็นยอดปล่อยกู้ภาครัฐ 3.5 แสนล้านบาท จากปีที่ผ่านมาอยู่ที่ 2.8 แสนล้านบาท
ส่วนในด้านสินเชื่อล่าสุดอยู่ที่ 1.62 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปลายปีที่ผ่านมา 4 หมื่นล้านบาท สินเชื่อเพิ่มขึ้นไม่มากเพราะในปีนี้ออมสินเปลี่ยนนโยบายการปล่อยกู้ใหม่ เน้นปล่อยกู้ภาครัฐ และรายย่อยให้มากขึ้น โดยจะชะลอการปล่อยกู้ให้กับภาคธุรกิจรายใหญ่เนื่องจากมีธนาคารพาณิชย์ให้บริการอยู่แล้ว
ทั้งนี้ ออมสินพยายามลดต้นทุนทางการเงิน ขณะนี้อยู่ที่ 2.6% จากปีที่ผ่านมาอยู่ในระดับ 2.8% วิธีการลดต้นทุน อาทิ ลดเงินฝากรายใหญ่ที่มีดอกเบี้ยสูงๆ ลง และหันมารับฝากเงินจากรายย่อยที่ดอกเบี้ยถูกกว่าแทน ล่าสุดสัดส่วนเงินฝากรายใหญ่เหลือเพียง 12% จากปลายปีอยู่ที่ 15% ส่วนเงินฝากรายย่อยเพิ่มเป็น 40% จากเดิมอยู่ที่ 30% พร้อมทั้งปรับแผนลงทุนตลาดตราสารหนี้ และตลาดหุ้นให้เพิ่มขึ้น เพราะช่วงนี้สร้างผลตอบแทนถึง 35%
