สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ว่า ผลการนับคะแนนการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ซึ่งมีขึ้นเมื่อวันอาทิตย์ (5 พ.ค.) ปรากฏว่า หลังปิดหีบลงคะแนนผ่านไปประมาณ 9 ชั่วโมง และนับบัตรได้กว่า 2 ใน 3 ของทั้งหมด พรรคร่วมรัฐบาลในนามพรรคบารีซาน หรือ พรรคแนวร่วมแห่งชาติ นำโดยพรรคอัมโนของนายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค คว้าชัยชนะได้สำเร็จ เมื่อได้ ส.ส.เข้าสู่รัฐสภาแล้วอย่างน้อย 133 ที่นั่ง ครองเสียงข้างมากจากทั้งหมดในรัฐสภา 222 ที่นั่ง สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้โดยเอกเทศ ขณะที่แนวร่วมฝ่ายค้าน 3 พรรค นำโดยนายอันวาร์ อิบราฮิม ได้ ส.ส. 77 ที่นั่ง
นับเป็นชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไป 13 ครั้งติดต่อกันของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งผูกขาดครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาตลอด ตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ.2500 และเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างผิดความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่สุดจากฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย เผยว่า พรรคบาริซานยืนยันชัยชนะแล้วใน 5 รัฐ คือ ตรังกานู 17 ที่นั่ง จาก 32 ที่นั่ง รัฐปาหัง 29 ที่นั่ง จาก 42 ที่นั่ง รัฐปะลิส 13 ที่นั่ง จาก 15 ที่นั่ง รัฐเนกรีเซมบิลัน 19 ที่นั่ง จาก 26 ที่นั่ง และรัฐมะละกา 20 ที่นั่งจาก 28 ที่นั่ง สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ต้องการทั้งหมด 222 ที่นั่ง ผู้ชนะจะต้องได้คะแนนมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 112 ที่นั่ง และ 148 ที่นั่งสำหรับชนะขาด 2 ใน 3
นับเป็นชัยชนะการเลือกตั้งทั่วไป 13 ครั้งติดต่อกันของพรรคแนวร่วมแห่งชาติ ซึ่งผูกขาดครองอำนาจเป็นรัฐบาลมาตลอด ตั้งแต่มาเลเซียได้รับเอกราชจากอังกฤษเมื่อปี พ.ศ.2500 และเป็นชัยชนะที่ค่อนข้างผิดความคาดหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งบรรดานักวิเคราะห์ชี้ว่า พรรคร่วมรัฐบาลจะเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่สุดจากฝ่ายค้าน
อย่างไรก็ตาม เว็บไซต์คณะกรรมการการเลือกตั้งมาเลเซีย เผยว่า พรรคบาริซานยืนยันชัยชนะแล้วใน 5 รัฐ คือ ตรังกานู 17 ที่นั่ง จาก 32 ที่นั่ง รัฐปาหัง 29 ที่นั่ง จาก 42 ที่นั่ง รัฐปะลิส 13 ที่นั่ง จาก 15 ที่นั่ง รัฐเนกรีเซมบิลัน 19 ที่นั่ง จาก 26 ที่นั่ง และรัฐมะละกา 20 ที่นั่งจาก 28 ที่นั่ง สำหรับการเลือกตั้งทั่วไปของมาเลเซีย ต้องการทั้งหมด 222 ที่นั่ง ผู้ชนะจะต้องได้คะแนนมากกว่าครึ่งหนึ่งหรือ 112 ที่นั่ง และ 148 ที่นั่งสำหรับชนะขาด 2 ใน 3