เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีนาจิบ ราซัค แห่งมาเลเซีย ประกาศยุบสภาในวันนี้ (3) เพื่อเตรียมจัดการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นศึกใหญ่ที่สุดสำหรับแนวร่วมรัฐบาล (Barisan National -BN) ที่ครองอำนาจมานานถึง 56 ปี
คำแถลงจากนาจิบระบุว่า “เช้าวันนี้ผมได้เข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดี เพื่อกราบทูลขอพระบรมราชานุญาตยุบสภา... ซึ่งจะนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปครั้งที่ 13”
ทั้งนี้ คณะกรรมการการเลือกตั้งจะจัดประชุมเพื่อกำหนดวันเลือกตั้ง ซึ่งน่าจะมีขึ้นภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า
นักวิเคราะห์คาดว่า ศึกเลือกตั้งคราวนี้จะเป็นการแข่งขันที่ดุเดือดอย่างยิ่ง ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจการทุจริตประพฤติมิชอบ, ปัญหาค่าครองชีพสูง และอาชญากรรม ที่เกิดขึ้นภายใต้รัฐบาลของกลุ่มบีเอ็น ซึ่งผูกขาดอำนาจในมาเลเซียมาตั้งแต่ปี 1957
ในกลุ่ม 13 พรรคร่วมรัฐบาล พรรคใหญ่ที่สุดได้แก่ พรรคอัมโน ของนาจิบ ราซัค ซึ่งพยายามจะกู้คะแนนนิยมด้วยการผลักดันแผนปฏิรูปเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และให้เสรีภาพต่อพลเมืองมากยิ่งขึ้น
แนวร่วมฝ่ายค้าน พีอาร์ (Pakatan Rakyat) ซึ่งมี อันวาร์ อิบรอฮิม เป็นแกนนำคนสำคัญ เคยกวาดคะแนนเสียงถล่มทลายในศึกเลือกตั้งครั้งล่าสุดเมื่อปี 2008 ปัจจุบันกลุ่มของ อันวาร์ มีที่นั่ง 72 จากทั้งหมด 222 ที่นั่งในสภา และควบคุมการบริหาร 4 รัฐจากทั้งหมด 13 รัฐในมาเลเซีย
“สำหรับพีอาร์ นี่เป็นโอกาสดีที่สุดที่เราจะให้ประชาชนได้มีตัวเลือกรัฐบาลที่รับผิดชอบและเป็นประชาธิปไตยอย่างอท้จริง ผมคิดว่าเรามีโอกาสชนะค่อนข้างสูง เพราะชาวมาเลเซียต่างรู้สึกท้อแท้กับการมี นาจิบ เป็นผู้นำ” อันวาร์ให้สัมภาษณ์กับเอเอฟพี
“สิ่งที่ผมกังวลที่สุดก็คือ ฝ่ายรัฐบาลอาจใช้วิธีเล่นตุกติกในวันเลือกตั้ง และอาจเกิดความรุนแรงในช่วงหาเสียง”
นักเคลื่อนไหวและฝ่ายค้านขอให้รัฐบาลมาเลเซียจัดการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ยุติธรรม และตรวจสอบรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งให้ถูกต้องเพื่อป้องกันการทุจริต ซึ่งนาจิบก็ได้ตอบสนองโดยการสั่งใช้หมึกที่ลบไม่ออกพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อป้องกันการลงคะแนนซ้ำ และอนุญาตให้ชาวมาเลเซียที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศใช้สิทธิเลือกตั้งทางไปรษณีย์ได้