รอยเตอร์ - รัฐบาลมาเลเซียประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปครั้งสำคัญในวันที่ 5 พฤษภาคมนี้ ซึ่งอาจเป็นศึกที่หนักหนาสาหัสที่สุดสำหรับแนวร่วมรัฐบาล บีเอ็น (Barisan National) ที่ผูกขาดอำนาจในแดนเสือเหลืองมานานถึง 56 ปี คณะกรรมการการเลือกตั้งประกาศวันนี้ (10)
ผลโพลล่าสุดชี้ว่า กลุ่มบีเอ็นภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก จะเป็นฝ่ายคว้าชัยชนะเพียงเฉียดฉิว หลังจากที่เคยถูกกลุ่มฝ่ายค้านของ อันวาร์ อิบรอฮิม ตีโต้ในศึกเลือกตั้งปี 2008 จนรัฐบาลเหลือเสียงไม่ถึง 2 ใน 3 ของสภามาแล้ว
นาจิบ ประกาศจัดการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หรือก่อนปิดสมัยประชุมสภาไม่ถึง 1 เดือน โดยชี้ว่าต้องการเวลาให้แผนปฏิรูปเศรษฐกิจเห็นผลเป็นที่ประจักษ์เสียก่อน ในขณะที่นักวิจารณ์ตำหนิว่า การยื้อเวลาของเขาแสดงถึงความไม่เด็ดขาด และส่งผลกระทบถึงความมั่นใจของนักลงทุน
นาจิบ จะลงสู้ศึกกับอดีตนายกรัฐมนตรี อันวาร์ ผู้นำกลุ่มพันธมิตรประชาชน (พีอาร์) ซึ่งเคยคว้าที่นั่งผู้แทนได้ถึง 5 รัฐ จากทั้งหมด 13 รัฐ ในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อปี 2008 และว่ากันว่าในปีนี้ก็มีโอกาสสูงที่สุดที่ อันวาร์ จะโค่นอำนาจของกลุ่มบีเอ็นลงได้
นักวิเคราะห์มองว่า การเลือกตั้งในวันที่ 5 พฤษภาคม อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสำหรับ อันวาร์ ที่จะก้าวสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย เนื่องจากเจ้าตัวอายุมากแล้ว ประกอบกับพรรคร่วมฝ่ายค้านก็ยังแตกแยกกันเองภายใน
อับดุลอาซิส โมฮาเหม็ด ยูซุฟ ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง แถลงว่า รายชื่อผู้สมัครจะประกาศออกมาในวันที่ 20 เมษายน ซึ่งเท่ากับว่ามีเวลาหาเสียงแค่ราวๆ 2 สัปดาห์ น้อยกว่าระยะเวลา 21 วันที่เครือข่ายรณรงค์เพื่อการปฏิรูปเลือกตั้ง “เบอร์ซิห์” (Bersih) เรียกร้องเอาไว้
นักเคลื่อนไหวกลุ่มเบอร์ซิห์ เรียกร้องให้รัฐบาลปฏิรูปการเลือกตั้งให้เป็นไปอย่างโปร่งใส เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนรับทราบข้อมูลจากทุกฝ่าย และบ่อยครั้งที่กิจกรรมรณรงค์ของคนกลุ่มนี้ทวีความรุนแรงจนเกิดปะทะเข้ากับตำรวจ
อย่างไรก็ดี พรรคการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านต่างก็เดินหน้าหาเสียงกันแล้วตั้งแต่วันนี้โดยไม่สนใจกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของพวกเขาก็คือ วัยรุ่นที่จะไปใช้สิทธิเลือกตั้งเป็นครั้งแรกราว 2.4 ล้านคน หรือเกือบ 1 ใน 5 ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั่วประเทศ