นายประภัสร์ จงสงวน ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทยหรือ ร.ฟ.ท. กล่าวถึงกรณีรถไฟตกรางเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา อย่างน้อย 2 ครั้งที่จังหวัดลำปาง และล่าสุดขบวนรถไฟ 202 จากพิษณุโลกตกรางระหว่างสถานีหลักสี่และบางเขนว่า ภาพรวมของสาเหตุการตกรางยอมรับว่า ส่วนหนึ่งมาจากปัญหารางที่มีสภาพเก่า ซึ่งปัจจุบัน ร.ฟ.ท.อยู่ระหว่างการเร่งซ่อมแซมปรับปรุงรางทั่วประเทศให้มีคุณภาพดีขึ้น
ส่วนกรณีรถไฟตกรางระหว่างสถานีหลักสี่และบางเขนนั้นเบื้องต้นพบว่า ในที่เกิดเหตุมีการถอดตะปูยึดราง 2 ตัว โดยพบตะปูเหล่านี้วางที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นมีหลายประเด็นทั้งการเจตนาถอดตะปูยึดรางที่เป็นโลหะนำไปขาย เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เหล่านี้เคยเกิดเหตุการลักลอบตัดสายไฟ เพื่อนำทองแดงไปขาย ซึ่งการสอบสวนได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะรู้ผลภายใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า
สำหรับความมั่นใจของผู้ใช้บริการรถไฟช่วงนี้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟจำนวนมาก ได้สั่งการให้ฝ่ายซ่อมบำรุงรางออกทำการตรวจสอบสภาพรางทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่มีสภาพรางเก่า ซึ่งรถไฟที่ผ่านไปมาจะต้องทำความเร็วต่ำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันรถตรวจรางจะดำเนินการตรวจสอบโดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนอาจส่งผลกระทบให้รางขยายตัวได้ และขอให้ประชาชนมั่นใจใช้บริการของรถไฟ โดย ร.ฟ.ท.เตรียมเพิ่มขบวนรถ และเสริมตู้โบกี้ให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 11-18 เมษายนนี้ โดยมีการเพิ่มเที่ยวรถขาไป 8 ขบวน และเพิ่มตู้โดยสารรองรับขากลับ 18 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 120,000 คน ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารปีนี้คาดว่า จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
ส่วนกรณีรถไฟตกรางระหว่างสถานีหลักสี่และบางเขนนั้นเบื้องต้นพบว่า ในที่เกิดเหตุมีการถอดตะปูยึดราง 2 ตัว โดยพบตะปูเหล่านี้วางที่ใกล้จุดเกิดเหตุ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นมีหลายประเด็นทั้งการเจตนาถอดตะปูยึดรางที่เป็นโลหะนำไปขาย เนื่องจากบริเวณใกล้เคียงพื้นที่เหล่านี้เคยเกิดเหตุการลักลอบตัดสายไฟ เพื่อนำทองแดงไปขาย ซึ่งการสอบสวนได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว คาดว่าจะรู้ผลภายใน 3-4 สัปดาห์ข้างหน้า
สำหรับความมั่นใจของผู้ใช้บริการรถไฟช่วงนี้ ซึ่งกำลังจะเข้าสู่เทศกาลสงกรานต์ คาดว่าจะมีผู้ใช้บริการรถไฟจำนวนมาก ได้สั่งการให้ฝ่ายซ่อมบำรุงรางออกทำการตรวจสอบสภาพรางทุกพื้นที่ โดยเฉพาะจุดที่มีสภาพรางเก่า ซึ่งรถไฟที่ผ่านไปมาจะต้องทำความเร็วต่ำ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย ขณะเดียวกันรถตรวจรางจะดำเนินการตรวจสอบโดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อนอาจส่งผลกระทบให้รางขยายตัวได้ และขอให้ประชาชนมั่นใจใช้บริการของรถไฟ โดย ร.ฟ.ท.เตรียมเพิ่มขบวนรถ และเสริมตู้โบกี้ให้บริการประชาชนตั้งแต่วันที่ 11-18 เมษายนนี้ โดยมีการเพิ่มเที่ยวรถขาไป 8 ขบวน และเพิ่มตู้โดยสารรองรับขากลับ 18 ขบวน รองรับผู้โดยสารได้วันละประมาณ 120,000 คน ขณะที่ปริมาณผู้โดยสารปีนี้คาดว่า จะใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา
