นายสุทัศน์ ปัทมศิริวัฒน์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยถึงตัวเลขกำลังผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในประเทศปัจจุบันอยู่ที่ 31,000 เมกะวัตต์ แต่จากการที่พม่าปิดซ่อมบำรุงท่อก๊าซตั้งแต่วันที่ 5-14 เมษายน จะทำให้ไทยได้รับผลกระทบ ขาดกำลังไฟฟ้าไปประมาณ 1,400 เมกะวัตต์ โดยจะเหลือกำลังไฟฟ้าเพียง 27,000 เมกะวัตต์ เท่านั้น แต่จากการประมาณการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศช่วงนี้ จะมีการใช้ไฟประมาณ 27,000 เมกะวัตต์ โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดไปแล้วเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ประมาณ 26,000 เมกะวัตต์ และคาดการณ์ว่าหลังจากนี้จะมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดถึงประมาณ 27,000 เมกะวัตต์ ซึ่งจะทำให้ปริมาณไฟฟ้าสำรองภายในประเทศมีไม่เพียงพอ โดยทาง กฟผ.ได้ประสานหน่วยงานต่างๆ เช่น โรงไฟฟ้าที่ใช้น้ำมันเตา โรงไฟฟ้าพลังน้ำจากต่างประเทศ และโรงไฟฟ้าภาคเอกชน ช่วยผลิตไฟฟ้าเพิ่ม ทำให้มีกำลังไฟฟ้าพร้อมจ่ายอยู่ที่ 27,200 เมกะวัตต์ แต่ยังไม่มากพอ จึงต้องประสานภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ลดการใช้พลังงานและประหยัดไฟฟ้า ในช่วงระหว่างวันที่ 5-14 เมษายนนี้
ทั้งนี้ จากการรณรงค์ให้ภาคประชาชนประหยัดพลังงานที่ผ่านมา เพียงการประหยัดไฟ 1 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าถึง 500 เมกะวัตต์
ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงเชื่อว่าหากภาคประชาชนให้ความร่วมมือ จะทำให้ประเทศไทยมีไฟสำรองอย่างเพียงพอ และเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงจากการผลิตไฟฟ้าด้วย ก่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น
ทั้งนี้ จากการรณรงค์ให้ภาคประชาชนประหยัดพลังงานที่ผ่านมา เพียงการประหยัดไฟ 1 ชั่วโมงต่อวัน จะช่วยลดการใช้ไฟฟ้าถึง 500 เมกะวัตต์
ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย จึงเชื่อว่าหากภาคประชาชนให้ความร่วมมือ จะทำให้ประเทศไทยมีไฟสำรองอย่างเพียงพอ และเป็นการประหยัดเชื้อเพลิงจากการผลิตไฟฟ้าด้วย ก่อให้เกิดความมั่นคงทางพลังงานมากขึ้น