จากกรณีนางจาฏุพัจน์ พงษ์ธีรมิตร ยื่นฟ้องบริษัทโรงพยาบาลขอนแก่นราม และ พญ.ทัศนีย์ โกวิทย์สมบูรณ์ ในความผิดฐานละเมิด เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย หลังจากเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2541 นางจาฏุพัจน์คลอดบุตรสาว ที่โรงพยาบาลขอนแก่นราม เด็กมีร่างกายปกติ แต่มีภาวะเหลือง สัปดาห์ต่อมาจึงนำกลับไปรักษาที่โรงพยาบาลเดิม พญ.ทัศนีย์ ซึ่งเป็นกุมารแพทย์ในขณะนั้น เจาะเลือดตรวจพบว่า ทารกตัวเหลืองสูงมาก ตามหลักวิชาการแพทย์ต้องรักษาโดยเปลี่ยนถ่ายเลือดอย่างรีบด่วนเท่านั้น แต่แพทย์กลับใช้แสงบำบัด หรือ การส่องไฟ ทำให้ทารกมีอาการสมองพิการ พัฒนาการช้า หูหนวก ตาบอด ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ แลบลิ้นอยู่ตลอดเวลา และเสียชีวิตในวัยเพียง 4 ขวบ ด้วยสาเหตุระบบหายใจล้มเหลว ปอดบวม
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า แพทย์ประมาทเลินเล่อในการรักษา และไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้จำเลยร่วมการชดใช้สินไหมทดแทน 7.8 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ค่าปลงศพอีก 80,000 บาท
นางจาฏุพัจน์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจกับคำพิพากษาซึ่งบอกสังคมให้รับรู้ว่า แพทย์สามารถทำผิดได้ แต่เสียความรู้สึกที่ต้องการเพียงคำขอโทษแสดงความเสียใจ แต่ฝ่ายจำเลยก็ให้ไม่ได้
ศาลฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า แพทย์ประมาทเลินเล่อในการรักษา และไม่ได้มาตรฐานทางการแพทย์ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ โดยให้จำเลยร่วมการชดใช้สินไหมทดแทน 7.8 แสนบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ค่าปลงศพอีก 80,000 บาท
นางจาฏุพัจน์ กล่าวว่า รู้สึกดีใจกับคำพิพากษาซึ่งบอกสังคมให้รับรู้ว่า แพทย์สามารถทำผิดได้ แต่เสียความรู้สึกที่ต้องการเพียงคำขอโทษแสดงความเสียใจ แต่ฝ่ายจำเลยก็ให้ไม่ได้