พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุม กทค.มีมติแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเตรียมการเกี่ยวกับการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ (MHz) เพื่อให้บริการ 4 จี ด้วยเทคโนโลยีแอลทีอี โดยมีตนเป็นประธาน โดยคณะอนุกรรมการฯ จะมีหน้าที่กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการประมูล จำนวนการถือครองคลื่นความถี่ การประเมินมูลค่าคลื่นความถี่ การกำหนดราคาเริ่มต้นประมูล รูปแบบการประมูล รวมถึงการจัดกลุ่มคลื่นความถี่ เป็นต้น โดยมีระยะเวลาในการดำเนินการ 1 ปี
ทั้งนี้ ยังได้ตั้งคณะทำงาน 2 คณะ เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ คณะทำงานเยียวยาผลกระทบอันเกิดจากการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานมือถือของบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ที่สัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยมีนายสงขลา วิชัยขัทคะ เป็นประธาน มีหน้าที่ศึกษาความชัดเจนว่า ใครจะเป็นผู้ดูแลลูกค้าที่ใช้คลื่น 1800 MHz ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากสัญญาสัมปทานไปสู่ใบอนุญาตเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะไม่ใช่ลักษณะการขยายระยะเวลาในการให้สัมปทาน โดยลูกค้าจะต้องไม่ได้รับผลกระทบ และยังคงใช้บริการได้ตามเดิม หรือไม่เกิดกรณีซิมดับ ซึ่งคณะทำงานจะต้องศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2556 หรือก่อนสัญญาสัมปทานสิ้นสุด 3 เดือน รวมถึงศึกษาประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบและถูกต้อง ปัจจุบันทรูมูฟและดีพีซี มีผู้ใช้บริการจำนวน 17 ล้านเลขหมาย
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนคณะทำงานอีกคณะ คือ คณะทำงานการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจแนวทางการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ซึ่งมีนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นประธาน โดยคณะทำงานคณะนี้มีหน้าที่สร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการในปัจจุบัน 17 ล้านเลขหมาย การหาช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนย้ายเลขหมาย กำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการ ทั้งแบบชำระค่าบริการเป็นการล่วงหน้า (พรีเพด) และแบบชำระค่าบริการรายเดือน (โพสต์เพด) ขณะเดียวกัน จะต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุม กทค.ยังได้อนุมัติเลขหมายโทรคมนาคมให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ล้านเลขหมาย เพื่อนำไปเปิดให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz และอนุมัติเลขหมาย 5 ล้านเลขหมาย ให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวย้ำว่า กสทช.โดย กทค.พร้อมเดินหน้าในการนำเทคโนโลยี 4 จี มาให้บริการประชาชนคนไทย แต่ทั้งนี้ ในการดำเนินการจะดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้บริการ จำนวน 17 ล้านราย ที่เป็นลูกค้าปัจจุบันในระบบสัมปทานเดิมของทรูมูฟและดีพีซี เพื่อให้การจัดสรรคลื่นความถี่ของประเทศไทยเป็นไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน
ทั้งนี้ ยังได้ตั้งคณะทำงาน 2 คณะ เพื่อสนับสนุนการทำงานของคณะอนุกรรมการฯ ได้แก่ คณะทำงานเยียวยาผลกระทบอันเกิดจากการสิ้นสุดสัญญาสัมปทานมือถือของบริษัท ทรูมูฟ จำกัด และบริษัทดิจิตอลโฟน จำกัด (ดีพีซี) ที่สัญญาจะสิ้นสุดในวันที่ 15 กันยายนนี้ โดยมีนายสงขลา วิชัยขัทคะ เป็นประธาน มีหน้าที่ศึกษาความชัดเจนว่า ใครจะเป็นผู้ดูแลลูกค้าที่ใช้คลื่น 1800 MHz ในช่วงการเปลี่ยนผ่านจากสัญญาสัมปทานไปสู่ใบอนุญาตเป็นเวลา 1 ปี ซึ่งจะไม่ใช่ลักษณะการขยายระยะเวลาในการให้สัมปทาน โดยลูกค้าจะต้องไม่ได้รับผลกระทบ และยังคงใช้บริการได้ตามเดิม หรือไม่เกิดกรณีซิมดับ ซึ่งคณะทำงานจะต้องศึกษาให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน 2556 หรือก่อนสัญญาสัมปทานสิ้นสุด 3 เดือน รวมถึงศึกษาประเด็นกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อความรอบคอบและถูกต้อง ปัจจุบันทรูมูฟและดีพีซี มีผู้ใช้บริการจำนวน 17 ล้านเลขหมาย
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อว่า ส่วนคณะทำงานอีกคณะ คือ คณะทำงานการมีส่วนร่วมและสร้างความเข้าใจแนวทางการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่ 1800 MHz ซึ่งมีนายแก้วสรร อติโพธิ เป็นประธาน โดยคณะทำงานคณะนี้มีหน้าที่สร้างความเข้าใจให้กับผู้บริโภคที่ใช้บริการในปัจจุบัน 17 ล้านเลขหมาย การหาช่องทางเพื่ออำนวยความสะดวกในการโอนย้ายเลขหมาย กำหนดมาตรการเฉพาะเพื่อคุ้มครองผู้ใช้บริการ ทั้งแบบชำระค่าบริการเป็นการล่วงหน้า (พรีเพด) และแบบชำระค่าบริการรายเดือน (โพสต์เพด) ขณะเดียวกัน จะต้องทำประชาพิจารณ์ เพื่อรับฟังความคิดเห็นสาธารณะของประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ที่ประชุม กทค.ยังได้อนุมัติเลขหมายโทรคมนาคมให้กับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ตเวิร์ค จำกัด ในเครือบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) จำนวน 4 ล้านเลขหมาย เพื่อนำไปเปิดให้บริการ 3 จี บนคลื่นความถี่ 2.1 GHz และอนุมัติเลขหมาย 5 ล้านเลขหมาย ให้บริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน)
พ.อ.ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวย้ำว่า กสทช.โดย กทค.พร้อมเดินหน้าในการนำเทคโนโลยี 4 จี มาให้บริการประชาชนคนไทย แต่ทั้งนี้ ในการดำเนินการจะดูแลไม่ให้เกิดผลกระทบกับผู้ใช้บริการ จำนวน 17 ล้านราย ที่เป็นลูกค้าปัจจุบันในระบบสัมปทานเดิมของทรูมูฟและดีพีซี เพื่อให้การจัดสรรคลื่นความถี่ของประเทศไทยเป็นไป เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศชาติและประชาชน