วันนี้ (4 มี.ค.) ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดแห่งชาติ (ศพส.) เพื่อเร่งรัดและติดตามการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในช่วง 6 เดือน ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2555 ถึง 1 มีนาคม 2556 ตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด 7 แผน 4 ปรับ 3 หลัก 6 เร่ง โดยสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 166,157 ราย 174,520 คดี ยึดทรัพย์ได้กว่า 602 ล้านบาท นำผู้เสพเข้ารับการบำบัด 107,454 ราย โดยใช้เวลาในการประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง โดยภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ยอมให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนที่มาปักหลักทำข่าว โดยเปิดเผยเพียงสั้นๆ ว่า จะไม่พูด 7 วัน เดี๋ยวจะถูกนักข่าวการเมืองว่า จากนั้นจึงได้เดินทางกลับโดยทันที
นายณรงค์ รัตนานุกูล รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวภายหลังประชุมว่า สถานการณ์ยาเสพติดในรอบ 5 เดือน ที่ผ่านมาถือว่ายังมีการนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยังคงแพร่ระบาดหนักอยู่ โดยจะเห็นได้จากที่ราคายาเสพติดยังไม่ปรับตัวไม่สูงขึ้น แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากก็ตาม ปัญหาเกิดจากจำนวนผู้เสพที่ยังมีความต้องการยาเสพติดอยู่เท่าเดิม
ทั้งนี้เห็นว่าหากทุกโรงพยาบาลสามารถรับผู้เสพเป็นผู้ป่วย และมีศูนย์ฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดทุกจังหวัด พร้อมจัดระบบการบำบัดรักษาผู้ติดยาให้ครอบคลุม คงจะสามารถลดจำนวนผู้เสพลงได้ พร้อมยอมรับว่าระบบฟื้นฟูผู้เสพ ขณะนี้ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ถ้าไม่มีผู้เสพความต้องการปริมาณยาก็จะน้อยลงไปด้วย ซึ่งในปีนี้ทาง ป.ป.ส. จะเน้นเรื่องการฟื้นฟูบำบัดรักษาผู้เสพยามากเป็นพิเศษ
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะต้องมีการหารือกับทางการประเทศพม่า เพื่อร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด เพราะในบางพื้นที่บริเวณชายแดนไม่สามารถวางรั้วลวดหนามได้เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหา รวมถึงจะต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มม้งให้เลิกค้ายาเสพติด โดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจกับปัญหายาเสพติดที่ไม่ลดน้อยลง เพราะเชื่อว่ามีแนวทางในการแก้ไขได้หากได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับฟังปัญหา และอุปสรรค์ทุกอย่าง พร้อมขอให้ทาง ป.ป.ส.ทุกภาค เสนอปัญหา และแนวทางแก้ไขยาเสพติดว่าในฐานะรองนายกรัฐมนตรี จะให้ท่านทำอย่างไรถึงจะทำให้ยาเสพติดลดน้อยลง ซึ่งทางป.ป.ส.จะสรุปข้อมูลนำเสนอเป็นแนวทางต่อไป
นายณรงค์ รัตนานุกูล รักษาการเลขาธิการ ป.ป.ส. กล่าวภายหลังประชุมว่า สถานการณ์ยาเสพติดในรอบ 5 เดือน ที่ผ่านมาถือว่ายังมีการนำยาเสพติดเข้าสู่ประเทศไทยอย่างต่อเนื่องและยังคงแพร่ระบาดหนักอยู่ โดยจะเห็นได้จากที่ราคายาเสพติดยังไม่ปรับตัวไม่สูงขึ้น แม้ว่าทางเจ้าหน้าที่จะจับกุมยาเสพติดได้เป็นจำนวนมากก็ตาม ปัญหาเกิดจากจำนวนผู้เสพที่ยังมีความต้องการยาเสพติดอยู่เท่าเดิม
ทั้งนี้เห็นว่าหากทุกโรงพยาบาลสามารถรับผู้เสพเป็นผู้ป่วย และมีศูนย์ฟื้นฟูผู้เสพยาเสพติดทุกจังหวัด พร้อมจัดระบบการบำบัดรักษาผู้ติดยาให้ครอบคลุม คงจะสามารถลดจำนวนผู้เสพลงได้ พร้อมยอมรับว่าระบบฟื้นฟูผู้เสพ ขณะนี้ยังไม่ได้ผลเท่าที่ควร ถ้าไม่มีผู้เสพความต้องการปริมาณยาก็จะน้อยลงไปด้วย ซึ่งในปีนี้ทาง ป.ป.ส. จะเน้นเรื่องการฟื้นฟูบำบัดรักษาผู้เสพยามากเป็นพิเศษ
นายณรงค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้จะต้องมีการหารือกับทางการประเทศพม่า เพื่อร่วมมือแก้ปัญหายาเสพติด เพราะในบางพื้นที่บริเวณชายแดนไม่สามารถวางรั้วลวดหนามได้เพราะอาจจะทำให้เกิดปัญหา รวมถึงจะต้องทำความเข้าใจกับกลุ่มม้งให้เลิกค้ายาเสพติด โดยส่วนตัวไม่รู้สึกหนักใจกับปัญหายาเสพติดที่ไม่ลดน้อยลง เพราะเชื่อว่ามีแนวทางในการแก้ไขได้หากได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย
อย่างไรก็ตาม ร.ต.อ.เฉลิม ได้รับฟังปัญหา และอุปสรรค์ทุกอย่าง พร้อมขอให้ทาง ป.ป.ส.ทุกภาค เสนอปัญหา และแนวทางแก้ไขยาเสพติดว่าในฐานะรองนายกรัฐมนตรี จะให้ท่านทำอย่างไรถึงจะทำให้ยาเสพติดลดน้อยลง ซึ่งทางป.ป.ส.จะสรุปข้อมูลนำเสนอเป็นแนวทางต่อไป
