สุราษฎร์ธานี - ผอ.ป.ป.ส.ภาค 8 เผยงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่ 7 จว.ภาคใต้ตอนบนทะลุเป้า แต่ปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดยังรุนแรง ขณะที่สถิติการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในรอบ 2 ปี มีอัตราเพิ่มขึ้นถึง 35% ยาบ้า ยาไอซ์ฮิตสุด กลุ่มผู้เสพส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่น
นายชลัยสิน โพธิเจริญ ผอ.สนง.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 (ป.ป.ส.ภาค 8) เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ป.ป.ส.ภาค 8 ได้ขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.ระนอง และ จ.กระบี่ โดยแผนงานสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด ในหมู่บ้าน ชุมชน ที่ปรากฏข่าวสารยาเสพติด 4,256 แห่ง ทำได้ 4,691 แห่ง เกินเป้าหมาย แผนงานการแก้ไขปัญหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด
ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด เป้าหมาย 27,600 คน ทำได้ 41,147 คน เกินเป้าหมาย โดยระบบสมัครใจและค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีมากที่สุด สำหรับแผนงานการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายได้จำนวน 8,022 ราย สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้ 578 คดี เป็นมูลค่ากว่า 163 ล้านบาท ทั้งนี้ ในรอบปีงบประมาณ 2555 มีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดต่อ ป.ป.ส.ภาค 8 จำนวน 1,213 ครั้ง เป็นการร้องเรียนต่อบุคคล 736 ครั้ง และร้องเรียนเกี่ยวกับพื้นที่แพร่ระบาด 477 ครั้ง
นายชลัยสิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ยังคงมีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการระบาดของยาเสพติดอย่างมาก ทั้งนี้ จากสถิติการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35 ประเภทยาเสพติดที่ระบาดมากที่สุดได้แก่ ยาบ้า และยาไอซ์ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ได้เร่งปราบปราม และจับกุมผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นช่องทางการกระจายยาเสพติด
ทั้งนี้ การจับกุมผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ง่าย ซึ่งคนในครอบครัวนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องคอยดูแลเอาใจใส่เยาวชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะเป็นเกราะป้องกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดได้
นายชลัยสิน โพธิเจริญ ผอ.สนง.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 (ป.ป.ส.ภาค 8) เปิดเผยว่า ในช่วงปีที่ผ่านมา ป.ป.ส.ภาค 8 ได้ขับเคลื่อนงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติดตามแผนยุทธศาสตร์พลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติด ร่วมกับหน่วยงานภาคีทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในพื้นที่ 7 จังหวัดภาคใต้ตอนบน ได้แก่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.ภูเก็ต จ.พังงา จ.ระนอง และ จ.กระบี่ โดยแผนงานสร้างพลังสังคมและพลังชุมชนเอาชนะยาเสพติด ในหมู่บ้าน ชุมชน ที่ปรากฏข่าวสารยาเสพติด 4,256 แห่ง ทำได้ 4,691 แห่ง เกินเป้าหมาย แผนงานการแก้ไขปัญหาผู้เสพ ผู้ติดยาเสพติด
ด้านการบำบัดรักษาผู้เสพยาเสพติด เป้าหมาย 27,600 คน ทำได้ 41,147 คน เกินเป้าหมาย โดยระบบสมัครใจและค่ายปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมีมากที่สุด สำหรับแผนงานการปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย สามารถจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในข้อหาครอบครองเพื่อจำหน่ายได้จำนวน 8,022 ราย สามารถดำเนินการยึดทรัพย์สินคดียาเสพติดได้ 578 คดี เป็นมูลค่ากว่า 163 ล้านบาท ทั้งนี้ ในรอบปีงบประมาณ 2555 มีประชาชนร้องเรียนเกี่ยวกับเรื่องยาเสพติดต่อ ป.ป.ส.ภาค 8 จำนวน 1,213 ครั้ง เป็นการร้องเรียนต่อบุคคล 736 ครั้ง และร้องเรียนเกี่ยวกับพื้นที่แพร่ระบาด 477 ครั้ง
นายชลัยสิน กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ยังคงมีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการระบาดของยาเสพติดอย่างมาก ทั้งนี้ จากสถิติการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35 ประเภทยาเสพติดที่ระบาดมากที่สุดได้แก่ ยาบ้า และยาไอซ์ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ได้เร่งปราบปราม และจับกุมผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญ มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นช่องทางการกระจายยาเสพติด
ทั้งนี้ การจับกุมผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ง่าย ซึ่งคนในครอบครัวนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องคอยดูแลเอาใจใส่เยาวชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะเป็นเกราะป้องกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดได้
