สุราษฎร์ธานี - สุราษฎร์ฯ เผยสถานการณ์ด้านยาเสพติดในพื้นที่ยังแพร่ระบาด ด้านแม่ทัพภาค 4 ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสนธิกำลังทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถ ขณะที่ ป.ป.ส.เผยรอบ 2 ปีมีสถิติการจับกุมเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35
นายวงศศิริ พรหมชนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการศูนย์อำนวยการพลังแผ่นดินเอาชนะยาเสพติดจังหวัดสุราษฎร์ธานี (ศพส.จ.สฎ.) ครั้งที่ 5/2557 เพื่อติดตามสถานการณ์ และผลการปฏิบัติงานในรอบเดือนที่ผ่านมา ซึ่งจากรายงานพบว่า สถานการณ์การค้า และแพร่ระบาดของยาเสพติดในพื้นที่จังวัดสุราษฎร์ธานี มีการจับกุมคดียาเสพติดทั้งสิ้น 868 คดี ผู้ต้องหา 1,050 คน ยึดของกลาง เช่น ยาบ้า จำนวน 49,846 เม็ด ยาไอซ์ 830.14 กรัม กัญชาแห้ง 2,157 กรัม กัญชาสด 24,401 กรัม เฮโรอีน 3.22 กรัม และโคเคน 6 กรัม ในขณะที่ด้านการบำบัดรักษา มีผู้เสพผู้ติดเข้ารับการบำบัดทั้งสิ้น 351 คน
นายวงศศิริ กล่าวอีกว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เร่งรัดดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างจริงจัง ต่อเนื่อง เพื่อลดระดับความรุนแรง และขจัดความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ เร่งรัดให้มีแผนและปฏิบัติการตรวจค้น/ปิดล้อมพื้นที่เป้าหมาย การปฏิบัติต่อข้อร้องเรียนของประชาชน เน้นการขยายผลการสืบสวนจับกุมตัวการที่สำคัญ เน้นมาตรการทางด้านทรัพย์สิน และการดำเนินคดีที่มีประสิทธิภาพ และเร่งปฏิบัติการลดปัจจัยเสี่ยงในจังหวัด ขจัดแหล่งมั่วสุม แหล่งอบายมุข และการรวมกลุ่มมั่วสุมของเยาวชน
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ทางด้าน พล.ท.วลิต โรจนภักดี แม่ทัพภาคที่ 4 ได้เชิญผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วภาคใต้ เข้าร่วมประชุมหารือเพื่อรับข้อสั่งการ และแนวทางการปฏิบัติงานของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ซึ่งแม่ทัพภาคที่ 4 ได้ขอความร่วมมือให้ทางจังหวัดช่วยดำเนินการ เรื่องการแพร่ระบาดของยาเสพติดในภาคใต้ โดยเฉพาะจังหวัดสุราษฎร์ธานี ถึงแม้จะมีผลการจับกุมมาก แต่ยาเสพติดก็ยังมีการแพร่ระบาดอยู่ ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายสนธิกำลังทำงานอย่างเต็มขีดความสามารถ ทั้งด้านการป้องกัน ปราบปราม และตั้งจุดตรวจ/จุดสกัดในพื้นที่อย่างจริงจัง
ทางด้าน นายชลัยสิน โพธิเจริญ ผอ.สนง.ป้องกันและปราบปรามยาเสพติดภาค 8 (ป.ป.ส.ภาค 8) เผยว่า ปัจจุบันยังคงมีปัญหาการแพร่ระบาดของยาเสพติดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีการระบาดของยาเสพติดอย่างมาก ทั้งนี้ จากสถิติการจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา มีอัตราการเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 35 มากที่สุดได้แก่ ยาบ้า และยาไอซ์ ตามลำดับ พร้อมกันนี้ ได้เร่งปราบปราม และจับกุมผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี จ.นครศรีธรรมราช จ.กระบี่ และ จ.ภูเก็ต เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย และต่างชาติจำนวนมาก ซึ่งเสี่ยงที่จะเป็นช่องทางการกระจายยาเสพติด
ทั้งนี้ การจับกุมผู้เสพยาเสพติดส่วนใหญ่จะเป็นเยาวชนที่อยู่ในช่วงวัยรุ่น ซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีพฤติกรรมที่จะเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดได้ง่าย ซึ่งคนในครอบครัวนั้นเป็นส่วนสำคัญที่จะต้องคอยดูแล เอาใจใส่เยาวชนให้มากยิ่งขึ้น เพื่อจะเป็นเกราะป้องกันให้เยาวชนห่างไกลยาเสพติดได้