นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่ากระทรวงการคลัง ปาฐกถาพิเศษเรื่อง การประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการพัฒนาประเทศ ยืนยันว่า รัฐบาลพยายามจะหาแนวทางที่เหมาะสมในการพัฒนาเศรษฐกิจให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลก โดยนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ เพื่อไม่ให้ประเทศไทยต้องประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจเหมือนปี 2540
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เพิ่มขีดความสามารถของประเทศด้วยการอนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ระยะเวลาในการเตรียมการลงทุนกว่า 7 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2563 เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีกับประเทศในระยะยาว
ขณะที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มองว่า การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของรัฐบาล และภาคสังคมที่ต้องร่วมมือกัน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ใช้ชีวิตแบบพอประมาณ แต่หากจะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้ประเทศพัฒนาต่อไปได้ ควรจะดำเนินการ แต่จะต้องคำนึงถึงความพอดี ความเหมาะสมในการลงทุน ไม่มีหนี้มากจนเกินไป เช่นเดียวกับการเปิดเสรีทางการค้าจะต้องมีความเหมาะสม โดยประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ และไม่ทำให้ระบบการค้าของโลกมีปัญหา
ทั้งนี้ รัฐบาลได้เพิ่มขีดความสามารถของประเทศด้วยการอนุมัติการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ระยะเวลาในการเตรียมการลงทุนกว่า 7 ปี หรือแล้วเสร็จในปี 2563 เพื่อรองรับการเติบโตของเศรษฐกิจ ซึ่งเชื่อว่าจะส่งผลดีกับประเทศในระยะยาว
ขณะที่นายสุรเกียรติ์ เสถียรไทย อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ มองว่า การขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องของรัฐบาล และภาคสังคมที่ต้องร่วมมือกัน เพราะเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนต้องนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวัน ให้ใช้ชีวิตแบบพอประมาณ แต่หากจะต้องมีการลงทุนขนาดใหญ่ เพื่อให้ประเทศพัฒนาต่อไปได้ ควรจะดำเนินการ แต่จะต้องคำนึงถึงความพอดี ความเหมาะสมในการลงทุน ไม่มีหนี้มากจนเกินไป เช่นเดียวกับการเปิดเสรีทางการค้าจะต้องมีความเหมาะสม โดยประเทศไทยต้องได้ประโยชน์ และไม่ทำให้ระบบการค้าของโลกมีปัญหา