รัฐบาลญี่ปุ่นเสนอชื่อ นายฮารุฮิโกะ คุโรดะ ประธานธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย หรือ เอดีบี เป็นผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น พร้อมด้วยรายชื่อ นายคิโคอุ อิวาตะ และนายฮิโรชิ นากาโซ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้ว่าการฯ ให้รัฐสภาพิจารณา โดยหากรัฐสภาผ่านความเห็นชอบนายคุโรดะ วัย 68 ปี อดีตรัฐมนตรีคลัง จะทำหน้าที่ต่อจากนายมาซาอากิ ชิระกาวะ ที่จะลงจากตำแหน่งในวันที่ 19 มีนาคมนี้ หลายสัปดาห์ก่อนครบวาระ นายอาเบะ เลือกนายคุโรดะ เนื่องจากนายคุโรดะสนับสนุนนโยบายการเงินแบบผ่อนคลายพิเศษของเขา และมีความสัมพันธ์อันดีกับสถาบันการเงินระหว่างประเทศ
นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน กล่าวว่า นายคุโรดะคือตัวเลือกที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุด ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบีโอเจ จากการที่เขามีประวัติเป็นที่เชื่อถืออย่างกว้างขวางจากการทำงานด้านการเงินระหว่างประเทศ ก่อนหน้าการเป็นประธานเอดีบี นายคุโรดะเคยรับราชการในกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระหว่างปี 2542-2546 โดยดูแลประเด็นด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
นายมาซาอากิ คันโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์บริษัท เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ในกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า นายคุโรดะ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาเพิ่มบทบาทให้กับธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น ในแง่การสื่อสารนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านนายโรเบิร์ต เฟลด์แมน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่น บริษัท มอร์แกน สแตนลีย์ เอ็มยูเอฟจี ซีเคียวริตีส์ ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า เขาไม่เห็นใครเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่านายคุโรดะอีกแล้ว ประเด็นสำคัญในบีโอเจไม่ใช่เรื่องความเป็นอิสระในการบริหารงาน แต่เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ คุโรดะจำเป็นจะต้องทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมีความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในญี่ปุ่นอีกครั้ง
นายทาโร อาโสะ รัฐมนตรีคลังของญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในผู้สนับสนุน กล่าวว่า นายคุโรดะคือตัวเลือกที่ถูกต้องเหมาะสมที่สุด ในฐานะหัวเรือใหญ่ของบีโอเจ จากการที่เขามีประวัติเป็นที่เชื่อถืออย่างกว้างขวางจากการทำงานด้านการเงินระหว่างประเทศ ก่อนหน้าการเป็นประธานเอดีบี นายคุโรดะเคยรับราชการในกระทรวงการคลังญี่ปุ่นระหว่างปี 2542-2546 โดยดูแลประเด็นด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราระหว่างประเทศ
นายมาซาอากิ คันโนะ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์บริษัท เจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ในกรุงโตเกียว เปิดเผยว่า นายคุโรดะ เป็นบุคคลที่เหมาะสมที่จะเข้ามาเพิ่มบทบาทให้กับธนาคารกลางแห่งญี่ปุ่น ในแง่การสื่อสารนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
ด้านนายโรเบิร์ต เฟลด์แมน หัวหน้าฝ่ายวิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่น บริษัท มอร์แกน สแตนลีย์ เอ็มยูเอฟจี ซีเคียวริตีส์ ให้ความเห็นในทิศทางเดียวกันว่า เขาไม่เห็นใครเหมาะสมกับตำแหน่งนี้มากกว่านายคุโรดะอีกแล้ว ประเด็นสำคัญในบีโอเจไม่ใช่เรื่องความเป็นอิสระในการบริหารงาน แต่เป็นเรื่องของความน่าเชื่อถือ คุโรดะจำเป็นจะต้องทำให้ประชาคมระหว่างประเทศมีความเชื่อมั่น และความไว้วางใจในญี่ปุ่นอีกครั้ง
