นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. เปิดเผย ว่าปริมาณสำรองไฟฟ้าฉุกเฉินจะเหลือราว 760 เมกะวัตต์ จากเดิมที่ระดับ 1,200 เมกะวัตต์ โดยช่วงบ่ายวันนี้ (26 ก.พ.) จะนำข้อมูลแผนรับมือสถานการณ์ไฟฟ้าของ กฟผ. ไปชี้แจงกับ นายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และแจ้งให้ กนอ.ประสานกับโรงงานอุตสาหกรรมทุกแห่งปรับแผนการผลิตของวันที่ 5 เมษายน โดยเฉพาะช่วงเวลาสำคัญ 13.00-15.00 น.ซึ่งสถานการณ์การผลิตไฟฟ้าช่วงวันที่ 5-14 เมษายนนี้ ที่ปริมาณก๊าซธรรมชาติจากประเทศพม่าหายจากระบบ 1,100 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
ขณะที่ นายวีรพงศ์ มั่นใจว่า จากแผนเตรียมพร้อมดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจ แต่หากสุดวิสัยจริงโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งโรงพยาบาลจะเป็นสถานที่ลำดับท้ายๆ ในการปิดไฟ โดยขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งที่เป็นผู้ส่งไฟฟ้ารายหลักเข้าโรงงานอุตสาหกรรม
ส่วนบ้านเรือนประชาชนหากทุกหลังร่วมใจกันประหยัดไฟ ปิดไฟ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ปิดโทรทัศน์ที่ปุ่มปิดและถอดปลั๊ก เท่านี้จะช่วยประหยัดได้มากจนไม่จำเป็นต้องดับไฟตามแผน
ขณะที่ นายวีรพงศ์ มั่นใจว่า จากแผนเตรียมพร้อมดังกล่าวจะไม่ส่งผลต่อการผลิตของโรงงานอุตสาหกรรม เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญของระบบเศรษฐกิจ แต่หากสุดวิสัยจริงโรงงานอุตสาหกรรม รวมทั้งโรงพยาบาลจะเป็นสถานที่ลำดับท้ายๆ ในการปิดไฟ โดยขณะนี้ได้ส่งข้อมูลให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งที่เป็นผู้ส่งไฟฟ้ารายหลักเข้าโรงงานอุตสาหกรรม
ส่วนบ้านเรือนประชาชนหากทุกหลังร่วมใจกันประหยัดไฟ ปิดไฟ ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศ ปิดโทรทัศน์ที่ปุ่มปิดและถอดปลั๊ก เท่านี้จะช่วยประหยัดได้มากจนไม่จำเป็นต้องดับไฟตามแผน