นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ส.อ.ท.จัดประชุมคณะกรรมการ ส.อ.ท.ในวันที่ 26 ก.พ.2556 ที่ห้องมีตติ้งรูม 1-2 ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยจะมีการรายงานผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้าง ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับสู่สถานประกอบการของสภาอุตสาหกรรม จ.ลพบุรี โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สรุปมีข้อมูลเชื่อได้ว่า มีการทุจริตเรื่องดังกล่าว และคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.เห็นชอบให้ส่งเรื่องนี้ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมสอบสวนคดีพิเศษ และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.) สืบสวนหาผู้ทำผิดต่อไป
นายพยุงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การรายงานครั้งนี้ต้องการให้สมาชิกทั่วประเทศรับทราบ โดยโครงการนี้ใช้งบประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการในนามองค์กร ส.อ.ท.แต่มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้รับผลกระทบ และร้องเรียนมายัง ส.อ.ท.เมื่อกลางปีที่แล้ว และ ส.อ.ท.จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาในช่วงปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ จะรายงานที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับการทบทวนแก้ไขข้อบังคับ ส.อ.ท.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้แทนสมาชิก โดยที่ผ่านมามีกลุ่มอุตสาหกรรมเสนอให้ทบทวนหลายประเด็น และต้องการปรับเกี่ยวกับผู้แทนของสมาชิก ส.อ.ท.ที่รับมอบให้เข้าทำหน้าที่แทนควรมีความสัมพันธ์กับสมาชิก เช่น เป็นพนักงานหรือกรรมการบริษัทของสมาชิก รวมทั้งควรกำหนดว่าบุคคลควรเป็นผู้แทนสมาชิก ส.อ.ท.ได้กี่ราย ซึ่งมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาแก้ไขข้อบังคับ ส.อ.ท.ขึ้นมา เพื่อศึกษารายละเอียดข้อบังที่ต้องแก้ไขใหม่
การประชุมครั้งนี้เชิญคณะกรรมการ ส.อ.ท.ทั้ง 348 คน เข้าร่วม โดยถ้าใครเข้าร่วมประชุมไม่ได้สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาประชุมแทนได้ และนายธนิต โสรัตน์ สามารถเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติในฐานะรองประธาน ส.อ.ท.ไม่ใช่เลขาธิการ และรักษาการประธาน ส.อ.ท. ซึ่งทุกฝ่ายต้องการให้การประชุมครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และไม้ต้องการให้ใครมาสร้างความสับสนวุ่นวาย และให้ประชุมกันในวาระที่กำหนดไว้แล้ว
นายพยุงศักดิ์ กล่าวต่อไปว่า การรายงานครั้งนี้ต้องการให้สมาชิกทั่วประเทศรับทราบ โดยโครงการนี้ใช้งบประมาณ 12 ล้านบาท ซึ่งผู้ที่เกี่ยวข้องไม่ได้ดำเนินการในนามองค์กร ส.อ.ท.แต่มีผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการได้รับผลกระทบ และร้องเรียนมายัง ส.อ.ท.เมื่อกลางปีที่แล้ว และ ส.อ.ท.จึงได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาในช่วงปลายปีที่แล้ว
นอกจากนี้ จะรายงานที่ประชุมรับทราบเกี่ยวกับการทบทวนแก้ไขข้อบังคับ ส.อ.ท.ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับผู้แทนสมาชิก โดยที่ผ่านมามีกลุ่มอุตสาหกรรมเสนอให้ทบทวนหลายประเด็น และต้องการปรับเกี่ยวกับผู้แทนของสมาชิก ส.อ.ท.ที่รับมอบให้เข้าทำหน้าที่แทนควรมีความสัมพันธ์กับสมาชิก เช่น เป็นพนักงานหรือกรรมการบริษัทของสมาชิก รวมทั้งควรกำหนดว่าบุคคลควรเป็นผู้แทนสมาชิก ส.อ.ท.ได้กี่ราย ซึ่งมีการตั้งคณะทำงานพิจารณาแก้ไขข้อบังคับ ส.อ.ท.ขึ้นมา เพื่อศึกษารายละเอียดข้อบังที่ต้องแก้ไขใหม่
การประชุมครั้งนี้เชิญคณะกรรมการ ส.อ.ท.ทั้ง 348 คน เข้าร่วม โดยถ้าใครเข้าร่วมประชุมไม่ได้สามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นมาประชุมแทนได้ และนายธนิต โสรัตน์ สามารถเข้าร่วมประชุมได้ตามปกติในฐานะรองประธาน ส.อ.ท.ไม่ใช่เลขาธิการ และรักษาการประธาน ส.อ.ท. ซึ่งทุกฝ่ายต้องการให้การประชุมครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย และไม้ต้องการให้ใครมาสร้างความสับสนวุ่นวาย และให้ประชุมกันในวาระที่กำหนดไว้แล้ว
