นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปัญหาความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ว่า รัฐบาลควรเร่งหาข้อยุติในระดับนโยบาย เพราะถึงเวลาที่ต้องทบทวนว่าการทำงานของรัฐบาลในช่วงที่ผ่านมามีอะไรที่เป็นปัญหาอยู่ และทบทวนผู้ที่รับผิดชอบ หากรองนายกรัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายยังไม่พร้อมลงพื้นที่ จึงควรมอบรองนายกรัฐมนตรีคนอื่นให้ดูแลแทน ซึ่งเป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีต้องตัดสินใจ และติดตามการทำงาน ตนอยากให้คนที่รับผิดชอบงานสามารถรับฟังความเห็นของทุกหน่วยงานได้อย่างเท่าเทียมกัน เช่น คนที่เป็นรองนายกรัฐมนตรีดูแลตำรวจ จะรับฟังเฉพาะความเห็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินต่อในแนวนี้ไม่ได้ ควรปรับปรุงแนวทางที่ทำกันมา เพราะการที่มองแต่ละเรื่องแยกกันออกไป เช่น หากจะพัฒนาก็เน้นว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่พอเกิดปัญหาก็มาพูดเรื่องเยียวยา ซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบถึงการเยียวยาทางการเมือง ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ซึ่งการใช้งบประมาณเยียวยา หากจำเป็นก็ต้องทำ แต่อย่ามองว่า ทำแล้วจะช่วยแก้ปัญหาที่เป็นพื้นฐานได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือนโยบายหลัก ทั้งนี้กลุ่มผู้ก่อการพยายามยกระดับการทำงาน รัฐบาลควรจะมีคนที่เกาะติดพื้นที่เพื่อป้องกันปัญหา เพราะต่างชาติ จับตาดูตลอด
ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอแนวคิด ชนะโดยไม่ต้องรบนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้ ร.ต.อ.เฉลิม พูดไปเรื่อย แต่สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ดีขึ้น ประชาชนเผชิญกับความเดือดร้อน จึงอยากให้มีนโยบายที่เป็นระบบ ที่นายกรัฐมนตรีและผู้ที่ได้รับมอบหมายสามารถบอกแนวทางให้กับผู้ปฏิบัติได้ เพราะที่ผ่านมาการทำงานของเจ้าหน้าที่มีปัญหาอยู่ และควรมีฝ่ายนโยบายไปติดตามการทำงาน ไม่ควรทิ้งพื้นที่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนหลายสิ่ง เช่น ความผิดพลาดเกี่ยวกับสถานการณ์ตากใบ จนถึงการที่ ร.ต.อ.เฉลิม พยายามโฆษณาเรื่องการไปทำงานร่วมกับมาเลเซีย การที่สร้างวาทกรรมรายวันจะยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราจะพบว่าระดับความรุนแรงยิ่งลุกลามหลากหลายมากขึ้น
นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า รัฐบาลจะเดินต่อในแนวนี้ไม่ได้ ควรปรับปรุงแนวทางที่ทำกันมา เพราะการที่มองแต่ละเรื่องแยกกันออกไป เช่น หากจะพัฒนาก็เน้นว่าจะต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก แต่พอเกิดปัญหาก็มาพูดเรื่องเยียวยา ซึ่งทำให้เกิดการเปรียบเทียบถึงการเยียวยาทางการเมือง ในเหตุการณ์การชุมนุมทางการเมืองปี 2553 ซึ่งการใช้งบประมาณเยียวยา หากจำเป็นก็ต้องทำ แต่อย่ามองว่า ทำแล้วจะช่วยแก้ปัญหาที่เป็นพื้นฐานได้ เพราะสิ่งสำคัญที่สุดคือนโยบายหลัก ทั้งนี้กลุ่มผู้ก่อการพยายามยกระดับการทำงาน รัฐบาลควรจะมีคนที่เกาะติดพื้นที่เพื่อป้องกันปัญหา เพราะต่างชาติ จับตาดูตลอด
ส่วนกรณีที่ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี เสนอแนวคิด ชนะโดยไม่ต้องรบนั้น นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าตอนนี้ ร.ต.อ.เฉลิม พูดไปเรื่อย แต่สถานการณ์ในพื้นที่ไม่ดีขึ้น ประชาชนเผชิญกับความเดือดร้อน จึงอยากให้มีนโยบายที่เป็นระบบ ที่นายกรัฐมนตรีและผู้ที่ได้รับมอบหมายสามารถบอกแนวทางให้กับผู้ปฏิบัติได้ เพราะที่ผ่านมาการทำงานของเจ้าหน้าที่มีปัญหาอยู่ และควรมีฝ่ายนโยบายไปติดตามการทำงาน ไม่ควรทิ้งพื้นที่ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นสะท้อนหลายสิ่ง เช่น ความผิดพลาดเกี่ยวกับสถานการณ์ตากใบ จนถึงการที่ ร.ต.อ.เฉลิม พยายามโฆษณาเรื่องการไปทำงานร่วมกับมาเลเซีย การที่สร้างวาทกรรมรายวันจะยิ่งทำให้สถานการณ์รุนแรงมากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมาเราจะพบว่าระดับความรุนแรงยิ่งลุกลามหลากหลายมากขึ้น