ที่ห้องโถง อาคารอเนกประสงค์ ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยว่าที่ ร.ต.เลิศเกียรติ วงศ์โพธิพันธ์ รองเลขาธิการ ศอ.บต. ผศ.ปิยะ กิจถาวร รองเลขาธิการ ศอ.บต. นายลือชัย เจริญทรัพย์ นายอำเภอหนองจิก ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน ศอ.บต. ร่วมรับฟังความคิดเห็นเรื่องที่รัฐบาลจะประกาศเคอร์ฟิวในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา โดยมีผู้นำท้องที่ ผู้นำท้องถิ่น ผู้นำตามธรรมชาติ ผู้นำศาสนา เข้าร่วมเสนอแนะแนวความคิดเห็นในครั้งนี้
เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวว่า ศอ.บต.อยากส่งเสริมผู้นำ 4 เสาหลักให้มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลเรื่องความปลอดภัย และพัฒนาให้คนในหมู่บ้านให้อยู่อย่างมีความสุข หากถามชาวบ้านในพื้นที่ มองว่าหมู่บ้านของตนเองมีความปลอดภัย แต่ในมุมมองของคนต่างพื้นที่มองว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่อันตราย ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้มาตรการนี้ เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่ากับคนในพื้นที่
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ รัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวเพื่อความปลอดภัยของประชาชน คือการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจ เพราะมีการทักท้วง ให้ถามความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังให้ประชาชนทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับการแก้ปัญหา พร้อมคำถาม ถ้ามีประกาศเคอร์ฟิว จะมีผลกระทบอย่างไร
ด้านตัวแทนผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้เสนอแนวความคิดว่า สำหรับรัฐบาลมองว่าการแก้ปัญหาวิธีนี้ใช้ได้ผล เพราะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสะดวก แต่ประชาชนในพื้นที่ส่วนมากไม่เห็นด้วย เพราะส่งผลต่อวิถีชีวิต 4 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากคนในชุมชนส่วนมากประกอบอาชีพทำสวน โดยเฉพาะสวนยางพารา ที่มักจะกรีดยางกันในช่วงกลางคืน ด้านสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปจากวิถีชีวิตเดิม ด้านศาสนพิธีทางศาสนา ด้านการศึกษา และไม่อยากให้รัฐบาลมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแง่ลบ อยากให้ลงมาสัมผัสพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งเกรงว่าการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 2547 อ.กรงปินัง ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากนัก คนในพื้นที่สามารถดูแลซึ่งกันและกันได้
เลขาธิการ ศอ.บต.กล่าวว่า ศอ.บต.อยากส่งเสริมผู้นำ 4 เสาหลักให้มีอำนาจหน้าที่ในการดูแลเรื่องความปลอดภัย และพัฒนาให้คนในหมู่บ้านให้อยู่อย่างมีความสุข หากถามชาวบ้านในพื้นที่ มองว่าหมู่บ้านของตนเองมีความปลอดภัย แต่ในมุมมองของคนต่างพื้นที่มองว่า จังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่อันตราย ซึ่งตนเองไม่เห็นด้วยกับการประกาศใช้มาตรการนี้ เพราะคิดว่าไม่มีใครรู้ปัญหาดีเท่ากับคนในพื้นที่
ทั้งนี้ ในวันที่ 15 กุมภาพันธ์นี้ รัฐบาลจะประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวเพื่อความปลอดภัยของประชาชน คือการห้ามประชาชนออกจากเคหสถานภายในระยะเวลาที่กำหนด แต่รัฐบาลยังไม่ตัดสินใจ เพราะมีการทักท้วง ให้ถามความคิดเห็นของพี่น้องประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และยังให้ประชาชนทำความเข้าใจอย่างถูกต้องกับการแก้ปัญหา พร้อมคำถาม ถ้ามีประกาศเคอร์ฟิว จะมีผลกระทบอย่างไร
ด้านตัวแทนผู้นำศาสนาในพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา ได้เสนอแนวความคิดว่า สำหรับรัฐบาลมองว่าการแก้ปัญหาวิธีนี้ใช้ได้ผล เพราะสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสะดวก แต่ประชาชนในพื้นที่ส่วนมากไม่เห็นด้วย เพราะส่งผลต่อวิถีชีวิต 4 ด้าน คือ ด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากคนในชุมชนส่วนมากประกอบอาชีพทำสวน โดยเฉพาะสวนยางพารา ที่มักจะกรีดยางกันในช่วงกลางคืน ด้านสภาพจิตใจที่เปลี่ยนไปจากวิถีชีวิตเดิม ด้านศาสนพิธีทางศาสนา ด้านการศึกษา และไม่อยากให้รัฐบาลมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในแง่ลบ อยากให้ลงมาสัมผัสพื้นที่ด้วยตนเอง ซึ่งเกรงว่าการประกาศมาตรการเคอร์ฟิวจะทำให้เหตุการณ์รุนแรงขึ้น เพราะตั้งแต่ปี 2547 อ.กรงปินัง ไม่ได้มีเหตุการณ์ที่รุนแรงมากนัก คนในพื้นที่สามารถดูแลซึ่งกันและกันได้