เกาหลีเหนือท้าทายมติสหประชาชาติ ด้วยการทดลองอาวุธนิวเคลียร์เป็นครั้งที่ 3 เมื่อวันอังคาร (12) พร้อมคุยว่าประสบความสำเร็จด้วยอานุภาพการระเบิดที่รุนแรงยิ่งขึ้นแถมใช้อุปกรณ์ขนาดที่กะทัดรัดลงมา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าขยับใกล้ที่จะสามารถติดตั้งหัวรบปรมาณูเข้ากับขีปนาวุธนำวิถีเข้าไปอีก ทางด้านนานาชาติต่างพากันประณาม ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา รัสเซีย และกระทั่งจีนที่เป็นพันธมิตรสำคัญซึ่งยังเหลืออีกรายเดียวของเปียงยาว ก็ยังเรียกเอกอัครราชทูตของโสมแดงมาประท้วง
ปฏิกิริยาของนานาชาติ นอกเหนือจากคณะมนตรีความมั่นคงแล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือต่อเปียงยาง เพื่อตอบโต้ "การยั่วยุอย่างรุนแรง” ซึ่งคุกคามความมั่นคงของอเมริกาและสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้ว เปียงยางเพิ่งยิงขีปนาวุธ ซึ่งทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคและละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแจ้งว่า ได้เรียกเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำปักกิ่งมาพบและทำการประท้วงอย่างรุนแรง โดยที่ หยาง เจียฉี โฆษกกระทรวงระบุว่า จีน “แสดงความไม่พอใจอย่างแรงกล้าและคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว” ต่อการทดสอบคราวนี้ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ “ยุติการพูดและการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงมา แล้วหวนกลับไปสู่เส้นทางอันถูกต้องแห่งการสนทนาและการปรึกษาหารือกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ส่วนทางด้านญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระบุว่าการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ขณะอังกฤษเรียกร้องการตอบโต้อย่างเข้มแข็ง และเยอรมนีสำทับว่า ควรพิจารณามาตรการลงโทษเพิ่มเติม
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรี ประณามการทดสอบนุกของเกาหลีเหนือ และย้ำว่า ปารีสจะสนับสนุน “มาตรการที่เข้มแข็ง” ของคณะมนตรี
ปฏิกิริยาของนานาชาติ นอกเหนือจากคณะมนตรีความมั่นคงแล้ว ประธานาธิบดีบารัค โอบามาแห่งสหรัฐฯ ได้เรียกร้องให้ดำเนินการอย่างรวดเร็วและน่าเชื่อถือต่อเปียงยาง เพื่อตอบโต้ "การยั่วยุอย่างรุนแรง” ซึ่งคุกคามความมั่นคงของอเมริกาและสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ หลังจากที่เมื่อวันที่ 12 ธันวาคมปีที่แล้ว เปียงยางเพิ่งยิงขีปนาวุธ ซึ่งทั้งบ่อนทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคและละเมิดมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
ทางด้านกระทรวงการต่างประเทศจีนแจ้งว่า ได้เรียกเอกอัครราชทูตเกาหลีเหนือประจำปักกิ่งมาพบและทำการประท้วงอย่างรุนแรง โดยที่ หยาง เจียฉี โฆษกกระทรวงระบุว่า จีน “แสดงความไม่พอใจอย่างแรงกล้าและคัดค้านอย่างเด็ดเดี่ยว” ต่อการทดสอบคราวนี้ และเรียกร้องให้เกาหลีเหนือ “ยุติการพูดและการกระทำใดๆ ที่อาจทำให้สถานการณ์เลวร้ายลงมา แล้วหวนกลับไปสู่เส้นทางอันถูกต้องแห่งการสนทนาและการปรึกษาหารือกันโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้”
ส่วนทางด้านญี่ปุ่น นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ระบุว่าการทดสอบนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือเป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ขณะอังกฤษเรียกร้องการตอบโต้อย่างเข้มแข็ง และเยอรมนีสำทับว่า ควรพิจารณามาตรการลงโทษเพิ่มเติม
ประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ของฝรั่งเศส 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของคณะมนตรี ประณามการทดสอบนุกของเกาหลีเหนือ และย้ำว่า ปารีสจะสนับสนุน “มาตรการที่เข้มแข็ง” ของคณะมนตรี