นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นประธานในพิธีการมอบเครื่องหมายรักษาดินแดนยิ่งชีพ หรือมอบเข็มอาสารักษาแดนสดุดีให้กับกองร้อยอาสารักษาดินแดนดีเด่น และรางวัลสมาชิกกองอาสารักษาดินแดนผู้ปฏิบัติงานดีเด่นประจำปี 2555 เนื่องในโอกาสคล้ายวันครบรอบการสถาปนากองอาสารักษาดินแดน (อส.) 59 ปี ในวันที่ 10 ก.พ.นี้
โดยนายจารุพงศ์ กล่าวถึงบทบาทของ อส. ในการปฏิบัติงานพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้มี อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้กว่า 7,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่ และบุคคลที่มีความเสี่ยง อาทิ มัสยิด โรงเรียน ครู พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานกับฝ่ายทหารและตำรวจ ในการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจค้น รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ
นอกจากนี้ยังสนับสนุนชุดคุ้มครองตำบล ในการสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ อย่างไรก็ตามจะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่อีก 2,700 นาย ลงไปช่วยทดแทนกำลังของทหาร และตำรวจ โดยจะปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวก่อเหตุ แต่ไม่ใช่พื้นที่สีแดง
ส่วนแนวคิดการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เห็นว่าจะประกาศใช้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และใช้เฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสามารถใช้กฎหมายได้อย่างเคร่งครัด
นายจารุพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องความเหมาะสมและเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากจะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด โดยตนได้มอบหมายให้หลายหน่วยงานไปศึกษารูปแบบและความเหมาะสมว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด หรือพระราชบัญญัติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการชั่งน้ำหนักเหตุผลของแต่ละฝ่ายที่เสนอมาก่อน
ทั้งนี้นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ยังจะไม่มีการกำหนดวาระหารือเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากยังมีร่างกฎหมายสำคัญเร่งด่วน ที่คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาให้ทันสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้
โดยนายจารุพงศ์ กล่าวถึงบทบาทของ อส. ในการปฏิบัติงานพื้นที่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ว่า ขณะนี้มี อส.ที่ปฏิบัติหน้าที่ในภาคใต้กว่า 7,000 นาย ดูแลรักษาความปลอดภัย สถานที่ และบุคคลที่มีความเสี่ยง อาทิ มัสยิด โรงเรียน ครู พร้อมทั้งสนับสนุนการทำงานกับฝ่ายทหารและตำรวจ ในการลาดตระเวน ตั้งจุดตรวจค้น รักษาความปลอดภัยขบวนรถไฟ
นอกจากนี้ยังสนับสนุนชุดคุ้มครองตำบล ในการสร้างความเข้มแข็งในพื้นที่ อย่างไรก็ตามจะมีการเพิ่มเจ้าหน้าที่อีก 2,700 นาย ลงไปช่วยทดแทนกำลังของทหาร และตำรวจ โดยจะปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีความเคลื่อนไหวก่อเหตุ แต่ไม่ใช่พื้นที่สีแดง
ส่วนแนวคิดการประกาศใช้เคอร์ฟิวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายจารุพงศ์ กล่าวว่า เห็นว่าจะประกาศใช้ต้องขึ้นอยู่กับสถานการณ์ และใช้เฉพาะพื้นที่ที่มีการก่อเหตุรุนแรง ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเจ้าหน้าที่ เนื่องจากสามารถใช้กฎหมายได้อย่างเคร่งครัด
นายจารุพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ได้มีการหารือระหว่างแกนนำพรรคเพื่อไทย ถึงเรื่องความเหมาะสมและเนื้อหาเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรมว่า ยังไม่มีความคืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เนื่องจากจะต้องมีการศึกษาอย่างละเอียด โดยตนได้มอบหมายให้หลายหน่วยงานไปศึกษารูปแบบและความเหมาะสมว่าจะออกเป็นพระราชกำหนด หรือพระราชบัญญัติ ซึ่งจะต้องใช้เวลาในการชั่งน้ำหนักเหตุผลของแต่ละฝ่ายที่เสนอมาก่อน
ทั้งนี้นายจารุพงศ์ กล่าวต่อไปว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีสัปดาห์หน้า ยังจะไม่มีการกำหนดวาระหารือเกี่ยวกับกฎหมายนิรโทษกรรม เนื่องจากยังมีร่างกฎหมายสำคัญเร่งด่วน ที่คณะรัฐมนตรีต้องพิจารณาให้ทันสมัยประชุมนิติบัญญัตินี้