พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับนายพาฟโล เลเบเดฟ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน ในโอกาสเข้ามาเยือนไทยระหว่าง 29-31 มกราคมนี้
โดย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อไปว่า การเข้าพบดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนการเยือน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน จะไปเยี่ยมชมสมรรถนะของยานเกราะบีทีอาร์ที่ไทยจัดซื้อจากยูเครน ประจำการที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี พร้อมยืนยันว่า การมาเยือนครั้งนี้ไม่ได้หารือถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากยูเครนเพิ่มเติม หรือแนวทางการจัดตั้งโรงงานประกอบ เพราะการจัดอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นเรื่องภายในของไทยและกระทรวงกลาโหม ยังมีนโยบายวิจัยพัฒนายานเกราะใช้งานเอง และมีเอกชนหลายแห่งให้ความสนใจเข้าร่วม โดยได้เริ่มดำเนินการแล้ว และมีสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเป็นหน่วยขับเคลื่อนวิจัย
ที่ผ่านมาไทยจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากยูเครนหลายรายการ ทั้งยานเกราะล้อยางบีทีอาร์ 2 เฟส รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก 96 คัน ส่งมอบให้กองทัพบกแล้ว และเฟส 2 อีก 121 คัน จะส่งมอบภายในปี 2557 ประจำการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี และโครงการจัดซื้อรถถังออปล็อตอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากจากยูเครน ปิดตลาดการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ในแถบเอเชียมากขึ้น
โดย พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวต่อไปว่า การเข้าพบดังกล่าวเป็นการแลกเปลี่ยนการเยือน และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมยูเครน จะไปเยี่ยมชมสมรรถนะของยานเกราะบีทีอาร์ที่ไทยจัดซื้อจากยูเครน ประจำการที่กองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี พร้อมยืนยันว่า การมาเยือนครั้งนี้ไม่ได้หารือถึงการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์จากยูเครนเพิ่มเติม หรือแนวทางการจัดตั้งโรงงานประกอบ เพราะการจัดอาวุธยุทโธปกรณ์เป็นเรื่องภายในของไทยและกระทรวงกลาโหม ยังมีนโยบายวิจัยพัฒนายานเกราะใช้งานเอง และมีเอกชนหลายแห่งให้ความสนใจเข้าร่วม โดยได้เริ่มดำเนินการแล้ว และมีสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศเป็นหน่วยขับเคลื่อนวิจัย
ที่ผ่านมาไทยจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากยูเครนหลายรายการ ทั้งยานเกราะล้อยางบีทีอาร์ 2 เฟส รวมมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท โดยเฟสแรก 96 คัน ส่งมอบให้กองทัพบกแล้ว และเฟส 2 อีก 121 คัน จะส่งมอบภายในปี 2557 ประจำการกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ จ.ปราจีนบุรี และโครงการจัดซื้อรถถังออปล็อตอยู่ระหว่างดำเนินการ เนื่องจากจากยูเครน ปิดตลาดการค้าอาวุธยุทโธปกรณ์ในแถบเอเชียมากขึ้น



