นาซาแพร่ภาพดวงอาทิตย์พ่นมวลโคโรนาพุ่งผ่านดาวพุธ-โลก

องค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ หรือ องค์การนาซา เผยแพร่คลิปวิดีโอและภาพนิ่ง พร้อมข้อมูลเกี่ยวกับการพ่นมวลโคโรนาของดวงอาทิตย์ หรือ ซีเอ็มอี เมื่อวันที่ 23 มกราคม 2 ลูก โดยลูกแรกพุ่งผ่านดาวพุธ ส่วนลูกที่ 2 มีแนวโน้มพุ่งมายังโลก แต่ไม่ส่งผลกระทบรุนแรง โดยลูกที่ 2 นี้มีความเร็ว 375 ไมล์ต่อวินาที ซึ่งช้ากว่าซีเอ็มอีที่เร็วที่สุด 10 เท่า โดยจะใช้เวลาเดินทางมาถึงโลกประมาณ 1-3 วัน การพ่นมวลโคโรนา หรือ ซีเอ็มอี คือก้อนพลาสม่าขนาดมหึมา ที่ดวงอาทิตย์ปล่อยออกมา ซึ่งมาพร้อมกับสนามแม่เหล็กที่แปรปรวน ทำให้สนามแม่เหล็กโลกมีรูปร่างบิดเบี้ยว และถูกรบกวนอย่างรุนแรง จนบางส่วนเปิดออก และยอมให้อนุภาพพุ่งมาตามเส้นแรงแม่เหล็กเข้าสู่บริเวณขั้วโลก เกิดเป็นแสงออโรร่า หรือแสงเหนือ แสงใต้ขึ้น ลักษณะแม่เหล็กโลกมีความเข้มลดลงชั่วคราว เรียกว่าพายุแม่เหล็กโลก ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ โดยสนามแม่เหล็กซึ่งอาจไหลเข้าสู่ระบบจ่ายกระแสไฟฟ้า ทำให้เกิดกระแสไฟฟ้าดับได้ โดยมีการจัดระดับความรุนแรงของพายุแม่เหล็กโลกไว้ 5 ระดับคือ จี 1-5 ซึ่งจี 1 ส่งผลให้ไฟฟ้ารวนแต่ไฟไม่ดับ ส่วนจี 2 ขึ้นไปทำให้ไฟฟ้าดับ
ส่วนการพ่นมวลโคโรนาครั้งนี้ จากข้อมูลการเตือนสภาพอวกาศขององค์การมหาสมุทร และบรรยากาศแห่งชาติ ระบุว่า อยู่ในค่าทางฟิสิกส์เค 4 เท่านั้น ซึ่งยังไม่ถึงระดับจี 1 ดังนั้นการเกิดกระแสไฟฟ้าเหนี่ยวนำ อาจมีแบบอ่อนๆ และส่งผลกระทบต่อระบบสายส่งไฟฟ้ากำลังเล็กน้อยคือ ไม่ส่งผลให้เกิดไฟดับ และอาจมีแสงออโรร่าบริเวณละติจูดสูงๆ เช่น แคนาดา และอลาสกา