วันพรุ่งนี้ (28 ม.ค.) มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค จะแถลงท่าทีหลังจากคณะกรรมการการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช. ลงสุ่มตรวจสอบปัญหาระบบเติมเงินใน 3 ประเด็น ตั้งแต่วันที่ 18 ที่ผ่านมาได้แก่ ห้ามกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงิน, ห้ามคิดค่าบริการทางเสียงเกินนาทีละ 99 สตางค์ และให้ประชาชนแสดงบัตรประชาชน เมื่อซื้อซิมโทรศัพท์ใหม่ ซึ่งตลอดทั้งวันนี้ (27 ม.ค.) เครือข่ายผู้บริโภค จะลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบด้วยเช่นกัน และพรุ่งนี้จะแถลงผลการตรวจสอบรวมทั้งข้อเสนอถึง กสทช.โดยเฉพาะประเด็น หรือพฤติกรรมของค่ายมือถือ ที่ยังพบว่า มีการละเมิดประกาศคำสั่งของ กสทช. และเอาเปรียบผู้บริโภคในหลายประเด็น รวมทั้งจะมีความชัดเจนว่า หากค่ายมือถือไม่ปฏิบัติตาม จะยื่นฟ้องค่ายมือถือต่อศาลแพ่งในสัปดาห์ที่จะถึงหรือไม่
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้สุ่มตรวจสอบปัญหาระบบเติมเงินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่ห้างเมกะบางนา และสยามพารากอนเป็นครั้งที่ 3 พบว่า ค่ายดีแทคยังไม่ได้ยกเลิกการกำหนดวันหมดอายุ ส่วนเอไอเอสและทรูได้ปฏิบัติตามแล้ว ซึ่งทางสำนักงาน กสทช.ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาเพิ่มค่าปรับที่สูงขึ้นกว่าวันละ 100,000 บาท ส่วนค่าบริการที่ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์ ทาง กสทช.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ค่ายมือถือแก้ไขให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า
ขณะที่ นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ได้สุ่มตรวจสอบปัญหาระบบเติมเงินในช่วงสุดสัปดาห์นี้ ที่ห้างเมกะบางนา และสยามพารากอนเป็นครั้งที่ 3 พบว่า ค่ายดีแทคยังไม่ได้ยกเลิกการกำหนดวันหมดอายุ ส่วนเอไอเอสและทรูได้ปฏิบัติตามแล้ว ซึ่งทางสำนักงาน กสทช.ได้ตั้งคณะทำงาน เพื่อพิจารณาเพิ่มค่าปรับที่สูงขึ้นกว่าวันละ 100,000 บาท ส่วนค่าบริการที่ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์ ทาง กสทช.ได้ส่งหนังสือแจ้งให้ค่ายมือถือแก้ไขให้แล้วเสร็จใน 7 วัน ซึ่งจะครบกำหนดในสัปดาห์หน้า