วันพรุ่งนี้ (18 ม.ค.) จะครบกำหนดวันที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการ โทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. สั่งให้ค่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ยกเลิกกำหนดวันหมดอายุในบัตรเติมเงิน ซึ่งประชาชนหลายคน ระบุว่า ยังไม่ทราบเรื่องนี้ และหากยกเลิกจริงจะเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะได้ไม่ต้องถูกบังคับให้เติมเงินเข้าระบบ
ส่วนการกำหนดโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์ที่ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา กสทช. ระบุว่า เครือข่าย เอไอเอสและดีแทค ยังมีโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์เกินกว่าที่ กสทช. กำหนด รวม 99 โปรโมชั่น จึงออกจดหมายแจ้งเตือนเป็นครั้งที่ 2 ขอให้ปฏิบัติตามภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะเพิ่มค่าปรับจากปัจจุบันที่ปรับวันละ 1 แสนบาท ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้บริโภคร้องเรียนผ่านสายด่วน 1200 ของ กสทช.ว่า ยังถูกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ประมาณ 700 คน
ส่วนการยกเลิกบัตรหมดอายุเติมเงิน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง แกนนำเครือข่ายผู้บริโภค ประเมินว่า เอกชนอาจเลือกจ่ายค่าปรับมากกว่ายกเลิกตามคำสั่งของ กสทช. ซึ่งหากสัปดาห์หน้ายังพบปัญหาอีก จะขอให้ กสทช.ทบทวนเพิ่มค่าปรับ และเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว
ส่วนการกำหนดโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์ที่ห้ามเกินนาทีละ 99 สตางค์ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมที่ผ่านมา กสทช. ระบุว่า เครือข่าย เอไอเอสและดีแทค ยังมีโปรโมชั่นค่าโทรศัพท์เกินกว่าที่ กสทช. กำหนด รวม 99 โปรโมชั่น จึงออกจดหมายแจ้งเตือนเป็นครั้งที่ 2 ขอให้ปฏิบัติตามภายใน 7 วัน มิฉะนั้นจะเพิ่มค่าปรับจากปัจจุบันที่ปรับวันละ 1 แสนบาท ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 มกราคมจนถึงปัจจุบัน มีผู้บริโภคร้องเรียนผ่านสายด่วน 1200 ของ กสทช.ว่า ยังถูกเก็บค่าบริการเกิน 99 สตางค์ประมาณ 700 คน
ส่วนการยกเลิกบัตรหมดอายุเติมเงิน น.ส.สารี อ๋องสมหวัง แกนนำเครือข่ายผู้บริโภค ประเมินว่า เอกชนอาจเลือกจ่ายค่าปรับมากกว่ายกเลิกตามคำสั่งของ กสทช. ซึ่งหากสัปดาห์หน้ายังพบปัญหาอีก จะขอให้ กสทช.ทบทวนเพิ่มค่าปรับ และเตรียมยื่นฟ้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว