กลุ่มสมัชชาคนจน จ.อุบลราชธานี ทยอยขึ้นรถไฟสายอุบลราชธานี-กรุงเทพมหานคร เพื่อชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 24 มกราคม ทั้งนี้ต้องการเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ปฏิบัติตามมติอนุกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล สมัยรัฐบาลที่แล้ว ที่ให้ทดลองเปิดเขื่อนปากมูลเป็นเวลา 5 ปี เพื่อคืนธรรมชาติให้กับแม่น้ำมูล พร้อมกับทวงถามเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนกว่า 6,000 ครอบครัว ซึ่งอนุกรรมการมีมติจ่ายจะชดเชยให้ครอบครัวละ 310,000 บาท
นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำสมัชชาคนจน หนึ่งในกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้หากรัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้อง หรือยกเลิกมติอนุกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูลชุดที่แล้ว ชาวบ้านทั้งหมดจะปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนด
สำหรับเขื่อนปากมูลได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2534 มีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าสูงสุด 136 เมกะวัตต์ ซึ่งระหว่างก่อสร้างโครงการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอด และมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่า ส่งผลกระทบต่อการทำประมงและความหลากหลายทางชีวภาพ และที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เปิดเขื่อนถาวร แต่มติอนุกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล เสนอให้ทดลองเปิดเขื่อนเป็นเวลา 5 ปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
นางสมปอง เวียงจันทร์ แกนนำสมัชชาคนจน หนึ่งในกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล ระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้หากรัฐบาลไม่ทำตามข้อเรียกร้อง หรือยกเลิกมติอนุกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูลชุดที่แล้ว ชาวบ้านทั้งหมดจะปักหลักชุมนุมอย่างไม่มีกำหนด
สำหรับเขื่อนปากมูลได้เริ่มก่อสร้างเมื่อปี 2534 มีกำลังผลิตกระแสไฟฟ้าสูงสุด 136 เมกะวัตต์ ซึ่งระหว่างก่อสร้างโครงการนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์ตลอด และมีการชุมนุมประท้วงของกลุ่มชาวบ้านที่ไม่เห็นด้วย โดยอ้างว่า ส่งผลกระทบต่อการทำประมงและความหลากหลายทางชีวภาพ และที่ผ่านมาชาวบ้านได้ยื่นข้อเรียกร้องให้เปิดเขื่อนถาวร แต่มติอนุกรรมการแก้ปัญหาเขื่อนปากมูล เสนอให้ทดลองเปิดเขื่อนเป็นเวลา 5 ปี แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป
