กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ปักหลักชุมนุมที่ประตู 4 หน้าทำเนียบรัฐบาล ขอเข้าพบนายกรัฐมนตรีแก้ไขความเดือดร้อน โดยเฉพาะเรื่องที่ดิน แก้ไขปัญหาเขื่อนปากมูล และผู้ไร้สัญชาติ
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ได้มีประชาชนในนามกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้รวมตัวกันที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เป็นจำนวนมากเพื่อขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยมีการชุมนุมลงไปถึงพื้นผิวจราจร ทำให้มีการปิดช่องทางการจราจรบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ มุ่งหน้าแยกมิสักวัน แต่ในทางกลับกันทางฝั่งสำนักงานข้าราชการพลเรือน การจราจรยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษา ขปส. กล่าวภายหลังจากเจรจากับ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองว่า พล.ต.ต.ธวัชได้รับเรื่องร้องเรียน และรับปากจะศึกษารายละเอียดในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งประสานให้กลุ่มตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 15 คนได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเร่งพิจารณาข้อเรียกของกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องการปรับกลไปการแก้ไปปัญหาของขบวนการเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
“เราจะชุมนุมจนถึงวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ก่อนที่จะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี หากการเข้าพบมีผลเป็นที่พอใจก็จะสลายการชุมนุม แต่หากไม่เป็นผลก็จะพิจารณาแนวทางต่อไป” นายประยงค์ระบุ
มีรายงานว่า กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นการรวมตัวของเครือข่ายเกษตรกรรายย่อยและคนจนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดหลายเครือข่ายด้วยกัน เช่น เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) และสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล (สภจ.) เป็นต้น โดยปัญหาความเดือดร้อนที่จะยื่นให้แก่นายกรัฐมนตรี ได้แก่ 1. การปรับปรุงกลไกการแก้ไปปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่พวกตนมองว่ามีปัญหาอยู่ในขณะนี้
2. การดำเนินการแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดิน ในรูปแบบโฉนดชุมชน โดยให้เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเพิ่อจัดให้มีโฉนดชุมชน 3. จัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน โดยให้รัฐบาลยุติการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน พ.ศ. 2554 รวมถึงให้นายกรัฐมนตรีเร่งลงนามแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน 4. แก้ไขกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล 5. ขอให้ทบทวนนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการปัญหาผู้ไร้สัญชาติที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทย เป็นต้น
วันนี้ (1 ต.ค.) ที่บริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล ได้มีประชาชนในนามกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) ได้รวมตัวกันที่ประตู 4 ทำเนียบรัฐบาล เป็นจำนวนมากเพื่อขอเข้าพบ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเรียกร้องให้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อน โดยมีการชุมนุมลงไปถึงพื้นผิวจราจร ทำให้มีการปิดช่องทางการจราจรบริเวณถนนพิษณุโลก ตั้งแต่เชิงสะพานชมัยมรุเชฐ มุ่งหน้าแยกมิสักวัน แต่ในทางกลับกันทางฝั่งสำนักงานข้าราชการพลเรือน การจราจรยังสามารถใช้งานได้ตามปกติ
นายประยงค์ ดอกลำใย ที่ปรึกษา ขปส. กล่าวภายหลังจากเจรจากับ พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมืองว่า พล.ต.ต.ธวัชได้รับเรื่องร้องเรียน และรับปากจะศึกษารายละเอียดในเรื่องดังกล่าว พร้อมทั้งประสานให้กลุ่มตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมจำนวน 15 คนได้เข้าพบกับนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งนายกรัฐมนตรีจะเร่งพิจารณาข้อเรียกของกลุ่มผู้ชุมนุมในเรื่องการปรับกลไปการแก้ไปปัญหาของขบวนการเพื่อสังคมที่เป็นธรรม
“เราจะชุมนุมจนถึงวันพรุ่งนี้ (2 ต.ค.) ก่อนที่จะได้เข้าพบนายกรัฐมนตรี หากการเข้าพบมีผลเป็นที่พอใจก็จะสลายการชุมนุม แต่หากไม่เป็นผลก็จะพิจารณาแนวทางต่อไป” นายประยงค์ระบุ
มีรายงานว่า กลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม (ขปส.) เป็นการรวมตัวของเครือข่ายเกษตรกรรายย่อยและคนจนที่ได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดหลายเครือข่ายด้วยกัน เช่น เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน (คปอ.) และสมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล (สภจ.) เป็นต้น โดยปัญหาความเดือดร้อนที่จะยื่นให้แก่นายกรัฐมนตรี ได้แก่ 1. การปรับปรุงกลไกการแก้ไปปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ที่พวกตนมองว่ามีปัญหาอยู่ในขณะนี้
2. การดำเนินการแก้ปัญหาความขัดแย้งเรื่องที่ดิน ในรูปแบบโฉนดชุมชน โดยให้เร่งแต่งตั้งคณะกรรมการประสานงานเพิ่อจัดให้มีโฉนดชุมชน 3. จัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน โดยให้รัฐบาลยุติการแก้ไขพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน พ.ศ. 2554 รวมถึงให้นายกรัฐมนตรีเร่งลงนามแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันบริหารจัดการธนาคารที่ดิน 4. แก้ไขกรณีปัญหาเขื่อนปากมูล 5. ขอให้ทบทวนนโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับการดำเนินการปัญหาผู้ไร้สัญชาติที่เป็นชนกลุ่มน้อยที่เกิดในประเทศไทย เป็นต้น
