พิษณุโลก - เครือข่ายภาคเหนือตอนล่างเสริมทัพ ระดมคนขี่ จยย.-รถยนต์ ร่วมสักการะอนุสาวรีย์ “พระองค์ดำ” ก่อนยกขบวนบุกกรุง ทวงนโยบายภาคประชาชน
วันนี้ (29 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่ายทรัพยากรดินน้ำ ป่า ภาคเหนือตอนล่าง ประมาณ 400 คน จาก จ.พิจิตร จ.กำแพงเพชร จ.ตาก จ.สุโขทัย จ.เพชรบูรณ์ จ.อุตรดิตถ์ และ จ.พิษณุโลก นำรถยนต์ และรถจักรยานยนต์เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณอนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภายในมหาวิทยาลัยนเรศวร อ.เมืองพิษณุโลก เพื่อทวงถามนโยบายประชาชน โฉนดชุมชน ธนาคารที่ดิน ต่อรัฐบาล ทั้งหมดได้ร่วมจุดธูปเทียน พร้อมพวงมาลัยสักการะกราบไหว้อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช
จากนั้น ตัวแทนอ่านหนังสือแถลงการณ์ที่ระบุว่า นับแต่รัฐบาลภายใต้การนำของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้ามาบริหารประเทศ เครือข่ายเกษตรกรรายย่อย และคนจนได้รับผลกระทบจากการพัฒนาประเทศที่ผิดพลาดในอดีต เช่น เครือข่ายสลัม 4 ภาค สหพันธ์เกษตรกรภาคเหนือ (สกน.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินภาคอีสาน(คปอ.) สมัชชาคนจนกรณีเขื่อนปากมูล(สคจ.) เครือข่ายชุมชนเพื่อการปฏิรูปสังคมและการเมือง(คปสม.) เครือข่ายปฏิรูปที่ดินเขาบรรทัด(คปป.) สหพันธ์เกษตรกรภาคใต้(สกต.) เครือข่ายเกษตรสัมพันธสัญญา เครือข่ายสิทธิสถานะบุคคล และกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบจากโรงไฟฟ้าชีวมวล
อันเป็นปัญหาความเดือดร้อนเรื่องที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย ปัญหาที่เกิดจากการสร้างเขื่อน ปัญหาการไร้สิทธิสถานะและชาติพันธุ์ ปัญหาจากเหมืองโรงงานไฟฟ้า ปัญหาการทำเกษตรพันธสัญญา รวมทั้งปัญหาความไม่เป็นธรรมจากกระบวนการยุติธรรม ทั้งคนจนในชนบท และคนจนในเมือง ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลเพื่อให้สานต่อการแก้ไขปัญหามาหลายครั้งแล้ว
ที่ผ่านมา รัฐบาลได้บรรจุไว้ในนโยบาย ซึ่งได้แถลงต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 23 สิงหาคม 2554 นโยบายความมั่นคงของชีวิตและสังคม การให้โอกาสประชาชนที่มีฐานะยากจนได้มีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง การสนับสนุนการจัดการอย่างมีส่วนร่วม และให้คนกับป่าอยู่รวมกัน ในลักษณะที่ทำให้คนมีภารกิจดูแลป่าให้มีความยั่งยืน การดำเนินงานไม่ประสบความสำเร็จ เนื่องจากรัฐบาลไม่ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหา ทำให้ไม่สามารถเดินหน้าแก้ไขปัญหาได้ ดังนั้น นับจากนี้เป็นต้นไป พวกเราจะไม่นิ่งเฉยจะทวงคืนนโยบายภาคประชาชนมาเป็นของประชาชนให้ได้
นายสาคร สงมา แกนนำเครือข่ายทรัพยากรดินน้ำ ป่า ภาคเหนือตอนล่าง กล่าวว่า ในภาคเหนือตอนล่างได้เสนอประเด็นเกี่ยวกับการรับจำนำข้าว ที่เอื้อให้มีการทุจริต มีการสวมสิทธิ เอื้อผลประโยชน์ไปตกอยู่พ่อค้าคนกลาง อยากให้รัฐบาลมาช่วยตรวจสอบ ส่วนเงินกู้ 3.5แสนล้านบาทจัดการเรื่องน้ำ นับว่าเป็นโครงการขนาดใหญ่มีผลบกระทบต่อชุมชนภาคเหนือตอนล่าง ขอให้ทบทวน และเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการประกาศพื้นที่รับน้ำนอง แก้มลิง โครงการจัดการภัยพิบัติเพิ่มจากกรณีปัญหาที่ดินของภาคเหนือ