พล.ร.อ.สุรศักดิ์ หรุ่นเริงรมย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ยืนยันว่า แนวโน้มสถานการณ์ความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ในปี 2556 จะคลี่คลายและเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น พร้อมย้ำนโยบายการทำงานปีหน้าของกองทัพเรือ จะเน้นสานต่อภารกิจต่อเนื่อง เพื่อความเป็นรูปธรรมในการปฏิบัติหน้าที่ โดยทุกเหล่าทัพ และกำลังพลในพื้นที่ต่างแน่วแน่ทำงานอย่างมุ่งมั่น เพื่อให้สถานการณ์ในพื้นที่เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อยโดยเร็ว พร้อมขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันประณามการกระทำของผู้ก่อความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่มีเป้าหมายก่อเหตุกับผู้บริสุทธิ์ และผู้ที่ไม่มีทางสู้เช่น ครู และ พระสงฆ์
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวถึงแนวนโยบายการทำงานใน ปี 2556 ว่าจะมุ่งเน้นการสานต่อภารกิจให้เกิดความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ โดยจะดูแลงานด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ และพร้อมช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ เปิดเผยว่า ปีหน้ากองทัพเรือ มีโครงการพัฒนากำลังรบที่สำคัญต่อเนื่องเช่น โครงการจัดหาเรือฟริเกตจำนวน 2 ลำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยและถ่วงดุลกำลังอำนาจด้านเรือดำน้ำ และ ทดแทนการปลดประจำการเรือฟริเกตชุดเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รวมถึงยังมีความต่อเนื่องในโครงการปรับปรุงเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร และ จะมีแนวทางสร้างความเข้าใจถึงเหตุผล และความจำเป็นในการพัฒนากำลังรบของกองทัพเรืออย่างต่อเนื่องในปี 2556
พล.ร.อ.สุรศักดิ์ กล่าวถึงแนวนโยบายการทำงานใน ปี 2556 ว่าจะมุ่งเน้นการสานต่อภารกิจให้เกิดความต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา และขอให้ประชาชนเชื่อมั่นการปฏิบัติงานของกองทัพเรือ โดยจะดูแลงานด้านความมั่นคงอย่างเต็มที่ และพร้อมช่วยเหลือประชาชน
นอกจากนี้ พล.ร.อ.สุรศักดิ์ เปิดเผยว่า ปีหน้ากองทัพเรือ มีโครงการพัฒนากำลังรบที่สำคัญต่อเนื่องเช่น โครงการจัดหาเรือฟริเกตจำนวน 2 ลำ วงเงิน 30,000 ล้านบาท เพื่อชดเชยและถ่วงดุลกำลังอำนาจด้านเรือดำน้ำ และ ทดแทนการปลดประจำการเรือฟริเกตชุดเรือหลวงพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก รวมถึงยังมีความต่อเนื่องในโครงการปรับปรุงเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร และ จะมีแนวทางสร้างความเข้าใจถึงเหตุผล และความจำเป็นในการพัฒนากำลังรบของกองทัพเรืออย่างต่อเนื่องในปี 2556