ศาลอาญารัชดาภิเษก นัดอ่านคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 10 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายศักดา บุญบำรุง ผู้รับเหมาก่อสร้าง และนายปอง เกตแก้ว ซึ่งเป็นชาวลาว รวม 2 คน เป็นจำเลยในความผิดฐานปล้นทรัพย์ โดยมีอาวุธเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ร่วมกันซ่อนเร้น ย้ายหรือทำลายศพ เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต
จากกรณีเมื่อต้นเดือนมกราคม-22 มกราคม 2554 จำเลยร่วมฆ่านายบุญช่วย บุญนา อายุ 49 ปี ผู้รับเหมาระบบไฟฟ้าตามสถานที่ก่อสร้างอาคารต่างๆ จนถึงแก่ความตาย แล้วซ่อนเร้นและย้ายศพ โดยใช้เชือกมัดมือมัดเท้าศพใส่ถัง 200 ลิตร แล้วนำไปทิ้งที่เชิงเขาริมถนนสายคลองลาน-ลาดยาว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ก่อนจะปล้นเอารถยนต์ของผู้ตายไป
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานเบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้ง 2 ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง ให้เรียงกระทงลงโทษ โดยสั่งจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 15 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 สั่งจำคุก 15 ปี 6 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ที่ 7 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 คงจำคุก 7 ปี 9 เดือน
จากกรณีเมื่อต้นเดือนมกราคม-22 มกราคม 2554 จำเลยร่วมฆ่านายบุญช่วย บุญนา อายุ 49 ปี ผู้รับเหมาระบบไฟฟ้าตามสถานที่ก่อสร้างอาคารต่างๆ จนถึงแก่ความตาย แล้วซ่อนเร้นและย้ายศพ โดยใช้เชือกมัดมือมัดเท้าศพใส่ถัง 200 ลิตร แล้วนำไปทิ้งที่เชิงเขาริมถนนสายคลองลาน-ลาดยาว อ.ปางศิลาทอง จ.กำแพงเพชร ก่อนจะปล้นเอารถยนต์ของผู้ตายไป
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า พยานเบิกความยืนยันว่า จำเลยทั้ง 2 ร่วมกันฆ่าผู้ตายจริง ให้เรียงกระทงลงโทษ โดยสั่งจำคุกจำเลยที่ 1 เป็นเวลา 15 ปี ส่วนจำเลยที่ 2 สั่งจำคุก 15 ปี 6 เดือน แต่จำเลยให้การรับสารภาพ มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยไว้ที่ 7 ปี 6 เดือน ส่วนจำเลยที่ 2 คงจำคุก 7 ปี 9 เดือน
