ปัตตานี - กลุ่มคนร้ายร่วม 30 คน บุกจู่โจมฐานปฏิบัติการ อส.ใน อ.กะพ้อ จับเจ้าหน้าที่มัดมือเท้าเอาปืนจ่อหัวข่มขู่ไม่ให้ขอกำลังสนับสนุน ก่อนปล้นปืนสงคราม 5 กระบอก พร้อมเสื้อเกราะ และวิทยุสื่อสาร ล่าสุด เจ้าหน้าที่กว่า 200 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุแล้ว เชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่
เมื่อเวลา 08.00 น. วันนี้ (7 ธ.ค.) พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี พ.ต.อ.ปริวรรต์ ขวัญมานิจ ผกก.สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี นำเจ้าหน้าที่วิทยาการ พร้อมด้วยชุดเก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบหาหลักฐานบริเวณฐานปฏิบัติการอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.กะพ้อ ตั้งอยู่ติดกำแพงโรงเรียนบ้านกะรุบี ม.1 ต.กะรุบี อ.กะพ้อ ทั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 05.30 น. ได้มีคนร้ายประมาณ 30 คน ปกปิดใบหน้าพร้อมอาวุธปืนครบมือบุกเข้าปิดล้อมฐาน และโรงเรียน
โดยกลุ่มคนร้ายได้บุกเข้าไปจับกุมเจ้าหน้าที่อาสาสมัครรักษาดินแดนจำนวน 5 นาย ที่ปฏิบัติหน้าที่เฝ้าเวรยามดูแลความปลอดภัยโรงเรียนดังกล่าว มัดมือมัดเท้า และปิดปาก พร้อมกับเอาปืนจ่อหัวข่มขู่ห้ามขอความช่วยเหลือ ก่อนจะรื้นค้นภายในฐาน ได้อาวุธปืนอาก้า จำนวน 4 กระบอก ปืนเอ็ม 16 จำนวน 1 กระบอก เสื้อเกราะ จำนวน 5 ตัว วิทยุสื่อสาร จำนวน 1 เครื่อง และทรัพย์สินของเจ้าหน้าที่จำนวนหนึ่ง จากนั้นจึงกระจายกันหลบหนี
จากการตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ พบว่า ฐานดังกล่าวสร้างด้วยอาคารคอนกรีตชั้นเดียว และมีป้อมปราการสูง 3 เมตร มีบังเกอร์ และตาข่ายปิดรอบฐานอย่างแน่นหนา เจ้าหน้าที่พบรอยเท้าของคนร้ายจำนวนมาก และพบผ้าเทป สายรัดมือที่คนร้ายใช้มัด อส.ตกอยู่บนป้อมปราการจึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน
อาสาสมัครรักษาดินแดนนายหนึ่งเปิดเผยว่า ขณะที่ตนกับเพื่อนอีก 4 คน โดยมีนายมาหามะ เด็งโด อายุ 50 ปี เป็นหัวหน้าชุด กำลังปฏิบัติหน้าที่ดูแลความปลอดภัยโรงเรียน ตนกับเพื่อน 2 คนอยู่ที่ป้อม ที่เหลือกระจายกำลังดูแลรอบๆ โรงเรียน ปรากฏว่า ได้มีคนร้ายมากกว่า 20 คน กระจายกำลังบุกเข้ามาอย่างรวดเร็วจนไม่สามารถตั้งรับ หรือต่อสู้ได้ โดยคนร้ายจับทุกคนมารวมกันแล้วมัดมือมัดเท้าเอาปืนจ่อหัวขู่ว่าจะยิงให้ตายถ้าส่งเสียง จากนั้นคนร้ายรื้อค้นปล้นอาวุธปืนซึ่งใช้เวลาเพียง 15 นาทีก่อนจะหลบหนีไป ตนกับเพื่อนพยายามแก้มัด จากนั้นจึงใช้พรุส่องแสงยิงขึ้นฟ้าเพื่อขอกำลังสนับสนุนช่วยเหลือ
ด้าน พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิวัฒนชัย ผบก.ภ.จ.ปัตตานี และพล.ต.ธวัช สุกปลั่ง ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี สั่งการให้หน่วยกำลังกว่า 200 นายเข้าปิดล้อมตรวจค้นบริเวณที่เกิดเหตุในรัศมี 500 เมตร ซึ่งเชื่อว่าคนร้ายที่ร่วมก่อเหตุน่าจะเป็นคนในพื้นที่ และพื้นที่ใกล้เคียง ขณะที่อาสาสมัครรักษาดินแดน 5 นายที่ประสบเหตุนั้น ได้นำตัวไปสอบปากคำหาข้อมูลคนร้ายซึ่งน่าจะรู้ตัวในไม่ช้า เนื่องจากคนร้ายบางคนไม่ปิดใบหน้า แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ต้องรอพยานหลักฐานก่อนจะนำกำลังไปจับกุม ส่วนอาวุธปืนที่คนร้ายปล้นไปคาดว่าน่าจะนำไปก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่