นางวิวรรณ บุณยประทีปรัตน์ เลขาธิการสมาคมปาล์มน้ำมัน และน้ำมันปาล์มแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในบ่ายวันนี้ (20 ธ.ค.) จะประชุมร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ สมาคมโรงกลั่น ตัวแทนโรงสกัด และผู้ผลิตไบโอดีเซล เพื่อกำหนดแนวทางการปฏิบัติในการช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อแก้ไขปัญหาราคาปาล์มตกต่ำ หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ หรือ กนป. เมื่อวานนี้ ได้ข้อสรุปเบื้องต้น โดยกล่าวว่า จะให้โรงสกัดรับซื้อผลปาล์มจากเกษตรกร โดยกำหนดราคารับซื้อจากเปอร์เซ็นต์น้ำมันปาล์มที่ 18 เปอร์เซ็นต์ รับซื้อกิโลกรัมละ 4.35 บาท ส่วน 17 เปอร์เซ็นต์จะรับซื้อที่กิโลกรัมละ 4 บาท เบื้องต้นจะรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรประมาณ 50,000 ตัน เพื่อดูดซับผลผลิตปาล์มออกจากตลาด และจะรับซื้อจนถึงสิ้นเดือนนี้ ก่อนจะประเมินสถานการณ์ปาล์มอีกครั้งในต้นปีหน้า
ทั้งนี้ รัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างจากราคาน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันที่อยู่ที่ 20-21 บาทต่อกิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้จะมีการหามาตรการอุดหนุนการส่งออกน้ำมันปาล์มด้วย หลังจากที่ผ่านมาไทยส่งออกน้ำมันปาล์มได้ลดลง เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกน้ำมันปาล์มที่กิโลกรัมละ 10 บาท ทำให้ต้นปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกน้ำมันปาล์มได้เพียง 1.7 แสนตัน จากปกติที่เคยส่งได้ 3-4 แสนตันต่อปี ทำให้ขณะนี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีมากเกินความจำเป็นอยู่ที่ 3.4 แสนตัน จากปริมาณสต๊อกที่เหมาะสมอยู่ที่ 2 แสนตัน
ทั้งนี้ รัฐบาลจะชดเชยส่วนต่างจากราคาน้ำมันปาล์มดิบปัจจุบันที่อยู่ที่ 20-21 บาทต่อกิโลกรัม แต่ไม่เกิน 25 บาทต่อกิโลกรัม นอกจากนี้จะมีการหามาตรการอุดหนุนการส่งออกน้ำมันปาล์มด้วย หลังจากที่ผ่านมาไทยส่งออกน้ำมันปาล์มได้ลดลง เนื่องจากมีการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมส่งออกน้ำมันปาล์มที่กิโลกรัมละ 10 บาท ทำให้ต้นปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกน้ำมันปาล์มได้เพียง 1.7 แสนตัน จากปกติที่เคยส่งได้ 3-4 แสนตันต่อปี ทำให้ขณะนี้สต๊อกน้ำมันปาล์มดิบในประเทศมีมากเกินความจำเป็นอยู่ที่ 3.4 แสนตัน จากปริมาณสต๊อกที่เหมาะสมอยู่ที่ 2 แสนตัน