ผู้ขับรถพ่วงข้าง หรือรถซาเล้ง กว่า 500 คัน ชุมนุมหน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัด เรียกร้องให้ยกเลิกการบังคับใช้มาตรการจับกุมรถซาเล้งของสำนักงานขนส่งจังหวัด ที่นำเอาพระราชบัญญัติรถยนต์ปี 2522 มาตรา 22 และบทกำหนดโทษมาตรา 60 มาบังคับใช้กับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง โดยห้ามใช้ และหากฝ่าฝืนจะจับกุมและเปรียบเทียบปรับ 2,000 บาท
ผู้ขับรถพ่วงข้าง อ้างว่าจำเป็นต้องดัดแปลงรถเพื่อประกอบอาชีพ จึงขอให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลังถึง 33 ปี และทั้งประเทศมีรถชนิดนี้นับแสนคัน
ขณะที่นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวประกาศใช้นานกว่า 30 ปีทั่วประเทศ แต่ยังไม่มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง ซึ่งการประกาศใช้มาตรการนี้เพื่อลดอุบัติเหตุที่มักเกิดกับรถพ่วงข้าง
อย่างไรก็ตาม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูล และให้ชะลอการจับกุมไปก่อน รอให้กลุ่มผู้ใช้รถพ่วงข้างมีมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เช่น ติดไฟท้าย ไฟส่องสว่าง และขอให้รวมกลุ่มเพื่อนำข้อเสนอนี้ส่งไปให้รัฐสภาแก้กฎหมาย ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน
ผู้ขับรถพ่วงข้าง อ้างว่าจำเป็นต้องดัดแปลงรถเพื่อประกอบอาชีพ จึงขอให้ชะลอการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าว เพราะเห็นว่าเป็นกฎหมายที่ล้าหลังถึง 33 ปี และทั้งประเทศมีรถชนิดนี้นับแสนคัน
ขณะที่นายวีระ ศรีวัฒนตระกูล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า กฎหมายดังกล่าวประกาศใช้นานกว่า 30 ปีทั่วประเทศ แต่ยังไม่มีการบังคับใช้อย่างจริงจัง ซึ่งการประกาศใช้มาตรการนี้เพื่อลดอุบัติเหตุที่มักเกิดกับรถพ่วงข้าง
อย่างไรก็ตาม ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมารับทราบข้อมูล และให้ชะลอการจับกุมไปก่อน รอให้กลุ่มผู้ใช้รถพ่วงข้างมีมาตรการด้านความปลอดภัยเพิ่มขึ้น เช่น ติดไฟท้าย ไฟส่องสว่าง และขอให้รวมกลุ่มเพื่อนำข้อเสนอนี้ส่งไปให้รัฐสภาแก้กฎหมาย ให้สอดคล้องกับปัจจุบัน
