หลังเสร็จสิ้นการเป็นประธานเปิดการแข่งขันโบวลิ่งการกุศลของสมาคมช่างภาพการเมือง นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้าน และหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวย้ำว่า ข้อกล่าวหาฐานร่วมกันก่อให้ผู้อื่นฆ่าคนตายโดยเจตนา ระหว่างกำกับดูแลสถานการณ์วิกฤตการเมืองปี 2553 จากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เป็นเพียงเกมการต่อรองทางการเมือง และยืนยันที่จะเข้ารับทราบข้อกล่าวหาภายในวันที่ 13 ธันวาคมนี้
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการแก้รัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การดำเนินการควรเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่จะลงมติวาระที่ 3 ของร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ และเปิดเวทีเสาวนารณรงค์สร้างความเข้าใจ ควรเป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดเวทีประชาพิจารณ์ ซึ่งจากนี้พรรคจะส่งตัวแทนเข้าสังเกตการณ์ และเปิดเวทีผ่าความจริง เพื่อชี้แจงเบื้องหลังการเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้ประชาชนรับทราบเช่นกัน
ขณะที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค เชื่อว่า การลงมติในวาระที่ 3 ของร่างแก้รัฐธรรมนูญจะเข้าข่ายความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งส่งผลให้ ส.ส. และ ส.ว.ที่ร่วมลงมติมีความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจถูกถอดถอนออกจากสมาชิกภาพ
และในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีผ่าความจริง "หยุดล้มรัฐธรรมนูญและออกกฎหมายล้างผิดคนโกง"ที่มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีแกนนำพรรคหลายคนเข้าร่วมปราศรัยทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญและการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
ก่อนหน้านี้ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยว่า หากรายงานสรุปผลการประชุมของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 แล้วเสร็จตามกำหนด และส่งมอบให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พิจารณา ภายในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ส่วนจะบรรจุวาระเพื่อพิจารณาลงมติในวันใดขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา และมีรายงานว่า ในวันรัฐธรรมนูญ วันที่ 10 ธันวาคม หัวหน้าพรรคหรือตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด จะต้องเดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลา ที่รัฐสภา หลังเสร็จพิธีน่าจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวนับหนึ่งเริ่มกิจกรรมรณรงค์สร้างความเข้าใจ ในการแก้รัฐธรรมนูญ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวถึงกรณีการแก้รัฐธรรมนูญ ยืนยันว่า การดำเนินการควรเป็นไปตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนกรณีที่จะลงมติวาระที่ 3 ของร่างแก้รัฐธรรมนูญที่ค้างอยู่ และเปิดเวทีเสาวนารณรงค์สร้างความเข้าใจ ควรเป็นไปตามหลักเกณฑ์การจัดเวทีประชาพิจารณ์ ซึ่งจากนี้พรรคจะส่งตัวแทนเข้าสังเกตการณ์ และเปิดเวทีผ่าความจริง เพื่อชี้แจงเบื้องหลังการเอื้อประโยชน์ทางการเมืองให้ประชาชนรับทราบเช่นกัน
ขณะที่ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะฝ่ายกฎหมายของพรรค เชื่อว่า การลงมติในวาระที่ 3 ของร่างแก้รัฐธรรมนูญจะเข้าข่ายความผิดสำเร็จแล้ว ซึ่งส่งผลให้ ส.ส. และ ส.ว.ที่ร่วมลงมติมีความผิดทางอาญา ฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ฝ่าฝืนคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ และอาจถูกถอดถอนออกจากสมาชิกภาพ
และในเวลา 16.00 น. ของวันนี้ พรรคประชาธิปัตย์ จัดเวทีผ่าความจริง "หยุดล้มรัฐธรรมนูญและออกกฎหมายล้างผิดคนโกง"ที่มหาวิทยาลัยรังสิต โดยมีแกนนำพรรคหลายคนเข้าร่วมปราศรัยทางการเมือง โดยเฉพาะประเด็นการแก้รัฐธรรมนูญและการเสนอร่าง พ.ร.บ.ปรองดอง
ก่อนหน้านี้ นายอุดมเดช รัตนเสถียร ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล เปิดเผยว่า หากรายงานสรุปผลการประชุมของคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาลศึกษาแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 แล้วเสร็จตามกำหนด และส่งมอบให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล พิจารณา ภายในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ส่วนจะบรรจุวาระเพื่อพิจารณาลงมติในวันใดขึ้นอยู่กับประธานรัฐสภา และมีรายงานว่า ในวันรัฐธรรมนูญ วันที่ 10 ธันวาคม หัวหน้าพรรคหรือตัวแทนจากพรรคร่วมรัฐบาลทั้งหมด จะต้องเดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลา ที่รัฐสภา หลังเสร็จพิธีน่าจะมีการตั้งโต๊ะแถลงข่าวนับหนึ่งเริ่มกิจกรรมรณรงค์สร้างความเข้าใจ ในการแก้รัฐธรรมนูญ
