มูลค่าทางเศรษฐกิจของธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี ประมาณ 2.9 ล้านรายทั่วประเทศ มีมูลค่าราวร้อยละ 37ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี ขณะนี้ประสบปัญหาความสามารถการแข่งขันลดลง รวมถึงต้นทุนที่สูงขึ้นจากนโยบายค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาท ทั่วประเทศ ในต้นปีหน้า
ศ.กิตติ ลิ่มสกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานประชุมทิศทางส่งเสริมเอสเอ็มอี ในปี 2557 ระบุว่า แม้จะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ แต่ผลผลิตของหลายโรงงานจะไม่เพิ่ม เนื่องจากใช้แรงงานไร้ฝีมือ โดยเฉพาะโรงงานตามแนวชายแดนที่ใช้แรงงานเข้มข้น
พร้อมระบุว่า เอสเอ็มอียังขาดการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต ส่งผลให้สินค้าไม่อาจตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ แต่การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี จะส่งผลดีที่เอสเอ็มอี ที่ต้องการย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากได้เปรียบด้านทักษะและความรู้ อีกทั้งสามารถขยายกลุ่มลูกค้าตลาดระดับล่างได้
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ให้ความช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้ผลิตสินค้าโอทอป จากผลกระทบจากการปรับค่าแรงใน 2 เรื่อง ได้แก่ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ รวมถึงการปรับกระบวนการคิดของผู้ประกอบการ
ในช่วงเย็นวันนี้ คณะทำงานของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะหารือร่วมกัน เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาที่จะขอให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือ บนพื้นฐาน 27 มาตรการที่กระทรวงแรงงานกำลังพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ กกร.ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเวลา 30 วัน สรุปมาตรการดังกล่าว
ศ.กิตติ ลิ่มสกุล อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวในงานประชุมทิศทางส่งเสริมเอสเอ็มอี ในปี 2557 ระบุว่า แม้จะมีการปรับค่าแรงขั้นต่ำทั่วประเทศ แต่ผลผลิตของหลายโรงงานจะไม่เพิ่ม เนื่องจากใช้แรงงานไร้ฝีมือ โดยเฉพาะโรงงานตามแนวชายแดนที่ใช้แรงงานเข้มข้น
พร้อมระบุว่า เอสเอ็มอียังขาดการนำนวัตกรรมใหม่ๆ มาใช้ในกระบวนการผลิต ส่งผลให้สินค้าไม่อาจตอบสนองผู้บริโภคได้อย่างเต็มที่ แต่การเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ เออีซี จะส่งผลดีที่เอสเอ็มอี ที่ต้องการย้ายฐานการลงทุนไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เนื่องจากได้เปรียบด้านทักษะและความรู้ อีกทั้งสามารถขยายกลุ่มลูกค้าตลาดระดับล่างได้
นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า กระทรวงฯ ได้ให้ความช่วยเหลือธุรกิจเอสเอ็มอี และผู้ผลิตสินค้าโอทอป จากผลกระทบจากการปรับค่าแรงใน 2 เรื่อง ได้แก่ นำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ รวมถึงการปรับกระบวนการคิดของผู้ประกอบการ
ในช่วงเย็นวันนี้ คณะทำงานของคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) จะหารือร่วมกัน เพื่อสรุปมาตรการเยียวยาที่จะขอให้รัฐบาลให้การช่วยเหลือ บนพื้นฐาน 27 มาตรการที่กระทรวงแรงงานกำลังพิจารณา ซึ่งก่อนหน้านี้ กกร.ได้ยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี เพื่อขอเวลา 30 วัน สรุปมาตรการดังกล่าว
