ในการประชุมพลังเครือข่ายขับเคลื่อนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคณะทำงานสนับสนุนการป้องกันอุบัติเหตุจราจรระดับจังหวัด (สอจร.) ระบุว่า ยอดการตายจากอุบัติเหตุทางถนนของคนไทยยังสูงมาก มีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยปีละกว่า 13,000 คน ในช่วงอายุ 15-45 ปี
จากการจัดทำสถานการณ์การประเมินตนเองในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด ปี 2554 ที่จัดอันดับความปลอดภัยด้านต่างๆ แต่ละจังหวัดต่อประชากร 100,000 คน เป็นครั้งแรก พบว่า จ.จันทบุรี นครปฐม อำนาจเจริญ นนทบุรี มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากที่สุด ต่ำสุดอยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์
ดัชนีความรุนแรงการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด อยู่ที่ จ.นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ต่ำสุดที่ จ.ปทุมธานี
สำหรับอัตราการจับกุมดำเนินคดีเมาแล้วขับ สูงสุดอยู่ที่ จ.ขอนแก่น สุรินทร์ ตราด เชียงใหม่ และต่ำสุดอยู่ที่ จ.สตูล อุทัยธานี ระยอง ขณะที่ จ.นครราชสีมา ภูเก็ต เพชรบุรี พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ส่วนที่ จ.ลำปาง อุบลราชธานี สระบุรี พบการใช้ความเร็วทางถนนมากที่สุด
น.พ.วีรพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธาน สอจร.กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้ยังสะท้อนถึงปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่ส่วนใหญ่มาจากการไม่เคารพกฎจราจร และที่น่าสนใจพบว่าสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุของแต่ละจังหวัดขึ้นอยู่กับการขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นหลัก จากนี้จะรวบรวมสถานการณ์อุบัติเหตุในทุกๆ ปี
สำหรับข้อมูลที่ได้จากการระดมความคิดเห็นจากที่ประชุม พร้อมทั้งข้อมูลสถานการณ์ด้านความปลอดภัยที่จัดทำขึ้น จะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนน ปี 2554-2558 เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงา 5 ด้าน คือ การบริหารจัดการความปลอดภัย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ยานพาหนะปลอดภัย พฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนน และการดูแลผู้เสียหายภายหลังอุบัติเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทุกรุปแบบ
จากการจัดทำสถานการณ์การประเมินตนเองในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนนระดับจังหวัด ปี 2554 ที่จัดอันดับความปลอดภัยด้านต่างๆ แต่ละจังหวัดต่อประชากร 100,000 คน เป็นครั้งแรก พบว่า จ.จันทบุรี นครปฐม อำนาจเจริญ นนทบุรี มีอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุมากที่สุด ต่ำสุดอยู่ที่ จ.กาฬสินธุ์
ดัชนีความรุนแรงการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด อยู่ที่ จ.นครนายก ประจวบคีรีขันธ์ สมุทรสงคราม ต่ำสุดที่ จ.ปทุมธานี
สำหรับอัตราการจับกุมดำเนินคดีเมาแล้วขับ สูงสุดอยู่ที่ จ.ขอนแก่น สุรินทร์ ตราด เชียงใหม่ และต่ำสุดอยู่ที่ จ.สตูล อุทัยธานี ระยอง ขณะที่ จ.นครราชสีมา ภูเก็ต เพชรบุรี พบผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไม่สวมหมวกนิรภัยมากที่สุด ส่วนที่ จ.ลำปาง อุบลราชธานี สระบุรี พบการใช้ความเร็วทางถนนมากที่สุด
น.พ.วีรพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธาน สอจร.กล่าวว่า ข้อมูลที่ได้ยังสะท้อนถึงปัจจัยการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่ส่วนใหญ่มาจากการไม่เคารพกฎจราจร และที่น่าสนใจพบว่าสัดส่วนการเกิดอุบัติเหตุของแต่ละจังหวัดขึ้นอยู่กับการขับขี่รถจักรยานยนต์เป็นหลัก จากนี้จะรวบรวมสถานการณ์อุบัติเหตุในทุกๆ ปี
สำหรับข้อมูลที่ได้จากการระดมความคิดเห็นจากที่ประชุม พร้อมทั้งข้อมูลสถานการณ์ด้านความปลอดภัยที่จัดทำขึ้น จะนำเสนอต่อกระทรวงคมนาคม เพื่อร่วมในการจัดทำแผนปฏิบัติการด้านความปลอดภัยทางถนน ปี 2554-2558 เพื่อให้สอดคล้องกับการดำเนินงา 5 ด้าน คือ การบริหารจัดการความปลอดภัย การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ยานพาหนะปลอดภัย พฤติกรรมผู้ใช้รถใช้ถนน และการดูแลผู้เสียหายภายหลังอุบัติเหตุ ซึ่งถือว่าเป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนทศวรรษแห่งความปลอดภัยทางถนน ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ที่มีเป้าหมายในการลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุทุกรุปแบบ
