ศูนย์ข่าวภูเก็ต - ภูเก็ตเดินหน้าโครงการสวมหมวกนิรภัย 100 เปอร์เซ็นต์ เร่งลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุบนท้องถนน พบที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เสียชีวิตจากการไม่สวมหมวกนิรภัย
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ห้องประชุมปีกผีเสื้อ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาตัวแบบการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย โดยมี ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พล.อ.ต.หญิง จิราภรณ์ ศรีศิล ประธานที่ปรึกษาดุษฏีนิพนธ์ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผู้นำชุมชน คณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตกว่า 200 คน เข้าร่วม
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า จากการประกาศเจตนารมณ์ ปฏิญญามอสโก ได้ระบุให้ทุกประเทศลดอุบัติเหตุจราจรลงร้อยละ 50 ในอีก 10 ปี ข้างหน้า ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากอนามัยโลกเห็นว่า การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรโลกต้องเสียชีวิตกว่าปีละ 1.2 ล้านคน บาดเจ็บ และพิการกว่าปีละ 50 ล้านคน ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของการสูญเสียที่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของประชากรโลก
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตอยู่ในลำดับต้นๆ ของการจัดอันดับขององค์การอนามัยโลก รัฐบาลจึงได้แถลงนโยบายความมั่นคงของชีวิต และสังคมเพื่อลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้การเดินทาง และการใช้การขนส่งอย่างปลอดภัย โดยน้อมนำเอาหลักการแก้ไขปัญหาการจราจรตามแนวพระราชดำรัสที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดแผนยุทธศาสตร์จังหวัด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีสถิติการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรสูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ โดยมีการบาดเจ็บเฉลี่ยสูงถึง 33-35 คน/วัน และเสียชีวิตมากว่า 15 คน/เดือน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 66.58 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบอุบัติเหตุที่ไม่สวมหมวกนิรภัย
ถึงแม้ว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยในปี พ.ศ.2553 ภาพรวมของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ในจังหวัดภูเก็ตมีมากกว่าร้อยละ 80 แต่ยังคงพบว่า ผู้ขับขี่ยังคงขาดวินัยทางด้านการจราจร จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้น ประชาชนจึงควรใส่ใจและระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน และคำนึงถึงกฎจราจรให้มากยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์เองด้วย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด และการสวมหมวกนิรภัยนั้นสามารถช่วยลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น ผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้ายจึงจะต้องมีการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่มีการขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้ (29 ต.ค.) ที่ห้องประชุมปีกผีเสื้อ มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต พล.ต.ต.โชติ ชวาลวิวัฒน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ การพัฒนาตัวแบบการรณรงค์ให้ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์สวมหมวกนิรภัย โดยมี ผศ.ดร.ประภา กาหยี อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นายแพทย์วิวัฒน์ ศีตมโนชญ์ รักษาราชการแทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต พล.อ.ต.หญิง จิราภรณ์ ศรีศิล ประธานที่ปรึกษาดุษฏีนิพนธ์ พ.ต.อ.วันไชย เอกพรพิชญ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดระนอง ผู้นำชุมชน คณะอาจารย์และนักศึกษามหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ตกว่า 200 คน เข้าร่วม
พล.ต.ต.โชติ กล่าวว่า จากการประกาศเจตนารมณ์ ปฏิญญามอสโก ได้ระบุให้ทุกประเทศลดอุบัติเหตุจราจรลงร้อยละ 50 ในอีก 10 ปี ข้างหน้า ซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากอนามัยโลกเห็นว่า การเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนเป็นสาเหตุที่ทำให้ประชากรโลกต้องเสียชีวิตกว่าปีละ 1.2 ล้านคน บาดเจ็บ และพิการกว่าปีละ 50 ล้านคน ทำให้เกิดความเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 3 ล้านล้านบาท ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 90 ของการสูญเสียที่เกิดขึ้นในประเทศที่กำลังพัฒนา และเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ของการเสียชีวิตของประชากรโลก
ทั้งนี้ ประเทศไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่มีจำนวนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิตอยู่ในลำดับต้นๆ ของการจัดอันดับขององค์การอนามัยโลก รัฐบาลจึงได้แถลงนโยบายความมั่นคงของชีวิต และสังคมเพื่อลดอุบัติเหตุ และความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรให้เหลือน้อยที่สุด เพื่อเป็นการส่งเสริมการเรียนรู้การเดินทาง และการใช้การขนส่งอย่างปลอดภัย โดยน้อมนำเอาหลักการแก้ไขปัญหาการจราจรตามแนวพระราชดำรัสที่ได้กำหนดเป็นวาระแห่งชาติ และกำหนดแผนยุทธศาสตร์จังหวัด
อย่างไรก็ตาม ในส่วนของจังหวัดภูเก็ตนั้นมีสถิติการบาดเจ็บ และเสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรสูงติดอันดับ 1 ใน 5 ของประเทศ โดยมีการบาดเจ็บเฉลี่ยสูงถึง 33-35 คน/วัน และเสียชีวิตมากว่า 15 คน/เดือน หรือคิดเป็นอัตราการเสียชีวิตร้อยละ 66.58 คนต่อประชากรหนึ่งแสนคน ส่วนใหญ่เป็นผู้ประสบอุบัติเหตุที่ไม่สวมหมวกนิรภัย
ถึงแม้ว่าอัตราการสวมหมวกนิรภัยในปี พ.ศ.2553 ภาพรวมของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์ในจังหวัดภูเก็ตมีมากกว่าร้อยละ 80 แต่ยังคงพบว่า ผู้ขับขี่ยังคงขาดวินัยทางด้านการจราจร จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ดังนั้น ประชาชนจึงควรใส่ใจและระมัดระวังในการใช้รถใช้ถนน และคำนึงถึงกฎจราจรให้มากยิ่งขึ้นเพื่อความปลอดภัยของผู้ขับขี่ และผู้โดยสารรถจักรยานยนต์เองด้วย เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ และลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือน้อยที่สุด และการสวมหมวกนิรภัยนั้นสามารถช่วยลดการสูญเสียชีวิตจากอุบัติเหตุได้ทางหนึ่ง เพราะฉะนั้น ผู้ขับขี่ และผู้ซ้อนท้ายจึงจะต้องมีการสวมหมวกนิรภัยทุกครั้งที่มีการขับขี่ หรือซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์
