นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยภายหลัง การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 10 หรือ รัฐมนตรีคลังอาเซม ว่า ที่ประชุมได้หารือกันถึงสถานการณ์เศรษฐกิจของยุโรป พร้อมทั้งรับทราบการแก้ไขปัญหาของประเทศกรีซ ที่อาจขยายระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาออกไปอีกระยะ โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ เชื่อว่าจะมีข้อสรุปที่ดีในการแก้ไขปัญหา ขณะที่ สเปน เริ่มมีการแก้ไขปัญหาที่ถูกทาง โดยมีสัญญาณจากสถาบันการเงินที่เริ่มเข้มแข็งมากขึ้น และมีแนวโน้มการจ้างงานที่สูงขึ้น จึงถือเป็นสัญญาณที่ดีของเศรษฐกิจในสหภาพยุโรป
นายกิตติรัตน์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีส่วนสำคัญ 2 ด้าน ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ของทั้ง 2 ภูมิภาค ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งประเทศสมาชิก มีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มปริมาณทางการค้าระหว่างกัน อาทิ การเปิดการค้าเสรี หรือ FTA และไม่ให้มีการกีดกันทางการค้า เพื่อให้การทำการค้ามีความคล่องตัว และรวดเร็วมากขึ้น โดยในส่วนของประเทศไทย หวังว่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ หลังจากการเจรจาเปิดการค้าเสรีระหว่างไทยกับยุโรปมีความล่าช้า ซึ่งรัฐบาลยืนยันจะสั่งการกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งดำเนินการ เพื่อกำหนดกรอบการเจรจา และเสนอที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาต่อ ก่อนนำเข้าไปสู่ขั้นตอนการเจรจา
นายกิตติรัตน์ ยังเปิดเผยด้วยว่า ในการประชุมครั้งนี้ มีส่วนสำคัญ 2 ด้าน ในการดำเนินนโยบายเศรษฐกิจ ของทั้ง 2 ภูมิภาค ให้มีความแข็งแกร่งมากขึ้น ซึ่งประเทศสมาชิก มีมติเป็นเอกฉันท์ร่วมกัน โดยเฉพาะนโยบายการเพิ่มปริมาณทางการค้าระหว่างกัน อาทิ การเปิดการค้าเสรี หรือ FTA และไม่ให้มีการกีดกันทางการค้า เพื่อให้การทำการค้ามีความคล่องตัว และรวดเร็วมากขึ้น โดยในส่วนของประเทศไทย หวังว่าจะมีความคืบหน้าในเรื่องนี้ หลังจากการเจรจาเปิดการค้าเสรีระหว่างไทยกับยุโรปมีความล่าช้า ซึ่งรัฐบาลยืนยันจะสั่งการกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเร่งดำเนินการ เพื่อกำหนดกรอบการเจรจา และเสนอที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาต่อ ก่อนนำเข้าไปสู่ขั้นตอนการเจรจา